เคล็ดลับกำจัดฝุ่นสุดสตรอง รับรองเห็นผล !

แน่นอนว่าปัญหาฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์และภายในบ้าน เกิดมาจากอนุภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ ไรฝุ่นหรือเกสรดอกไม้ ซึ่งถ้าหากเราปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่ทำความสะอาด อาจจะกลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ ที่มาพร้อมกับกลิ่นอับชวนหงุดหงิดใจ

แต่การทำคามสะอาดขจัดฝุ่นภายในบ้าน ถึงแม้ว่าจะทำความสะอาดกันบ่อยแค่ไหนก็รู้สึกไม่สะอาดถูกใจสักที ปล่อยทิ้งไว้สัก 2-3 วันก็มีฝุ่นมาเกาะจับอีกแล้ว กลายเป็นว่าเราต้องทำความสะอาดทำวนไปแบบไม่จบไม่สิ้น ตัวช่วยที่จะสามารถทุ่นแรงได้เป็นอย่างดีคือ เครื่องดูดฝุ่น

โดยเครื่องดูดฝุ่น ก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด หากคุณต้องการเลือกเครื่องดูดฝุ่นมาไว้เป็นตัวช่วยทำความสะอาดบ้าน สามารถติดตามอ่านรายละเอียดประเภทของเครื่องดูดฝุ่นได้ที่ > เลือกเครื่องดูดฝุ่นอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานคู่บ้านคุณ !

การกำจัดฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ

การกำจัดฝุ่น นอกจากจะทำให้บ้านของเราสะอาดหมดจดแล้ว ยังสามารถป้องกันเชื้อโรคร้าย ทำให้สุขภาพอนามัยของสมาชิกภายในบ้านดียิ่งขึ้น ลดอาการแพ้ต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยการทำความสะอาดก็ควรที่จะทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งค่ะ

วิธีขจัดกลิ่นอับในห้องและฝุ่นละออง

เริ่มจากการขจัดฝุ่นจากที่สูงกันก่อน ตามเพดาน หลังตู้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไล่ลงสู่ด้านล่างลงมาเรื่อยๆตามลำดับ หลังจากนั้นให้ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นเก็บกวาดฝุ่นออกทั้งหมดค่ะ

สำหรับชั้นวางหนังสือ ชั้นวางของ ที่มีการจัดวางของตกแต่ง กรอบรูป ฯลฯ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาดเช็ดถูกำจัดฝุ่นตามชั้นวางของ (ห้ามใช้ผ้าแห้งเช็ดเด็ดขาดนะคะ เพราะจะทำให้ฝุ่นกระจายตัว)

หากที่บ้านของคุณตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ติดผนัง ให้ใช้แปรงปัดฝุ่นหรือไม้ขนไก่ ปัดไล่ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามกำแพงออก หลังจากนั้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับวอลเปเปอร์ในการขัดคราบสกปรกตามกำแพงให้หมดไปค่ะ

ผ้าม่าน ถ้าเป็นผ้าม่านที่สามารถถอดออกมาซักได้ ก็ควรนำออกมาซักทำความสะอาด อันนี้ไม่ต้องทุกอาทิตย์ก็ได้ค่ะ สักเดือนละครั้งก็พอ แต่ถ้าหากไม่สามารถถอดออกมาซักได้ก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูฝุ่นที่เกาะอยู่ตามผ้า โดยตั้งค่าแรงดูดให้น้อยที่สุด

เมื่อเรากำจัดฝุ่นตามเฟอร์นิเจอร์และตามพื้นบ้านหมดแล้ว ให้ทำการถูบ้านโดยเลือกน้ำยาถูบ้านกลิ่นที่คุณชื่นชอบ ที่จะช่วยทำให้พื้นบ้านของคุณสะอาดหมดจด ปราศจากฝุ่นไรสร้างความหงุดหงิดใจให้กับคุณอย่างแน่นอนค่ะ