วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

วิธีปูกระเบื้องยางด้วยตัวเองอย่างมืออาชีพ

มันจะมีไอเดียไหน ที่สวยมากกว่าการเลือก “กระเบื้องยาง” หรือ “กระเบื้องไวนิล” มาใช้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งภายในบ้าน เสริมให้พื้นบ้านของเราแลดูสวยและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

กระเบื้องยาง หรือ กระเบื้องไวนิล เป็นวัสดุปูพื้นบ้าน ที่นอกจากเรื่องของลวดลายความสวยงามที่ดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังมีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทาน และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ภาพจาก shawfloors.com

*** แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าเวลาเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ควรยกขึ้นสูงจากพื้น อย่าลาก เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน

อยากปูกระเบื้องยางด้วยตัวเองต้องเตรียมอะไรบ้าง ?


การติดตั้งกระเบื้องยาง หรือ กระเบื้องไวนิล ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดค่ะ หากคุณคิดอยากจะลองปูด้วยตัวเอง แนะนำให้ศึกษาขั้นตอนวิธีการและตระเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเสียก่อนเริ่มลงมือ โดยอุปกรณ์การติดตั้งกระเบื้องยางมีดังต่อไปนี้ …

1. กาวขาวสำหรับติดพื้น 7. กาวยาง
2. เหล็กแซะ 8. หินขัดพื้นชนิดหยาบ
3. คัตเตอร์ 9. ตลับเมตร
4. ไม้กวาด 10. พัดลม
5. เชือกตีฝุ่นคลุก (บักเต้า) 11. ลูกกลิ้ง 30 – 50 กิโลกรัม
6. เกรียงลงกาว 12. ไม้ม็อบถูพื้น

ตรวจสอบพื้นบ้านก่อนติดตั้ง


เนื่องจากการติดตั้งกระเบื้องยาง เป็นการติดตั้งแบบแนบลงไปกับพื้น ดังนั้นพื้นบ้านเดิม จึงเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากพื้นเดิม ขรุขระไม่เรียบ การปูกระเบื้องยาง จะออกมาไม่แนบเนียน พื้นกระเบื้องยางไม่สม่ำเสมอ อาจจะต้องรื้อออกและทำใหม่กันอีกรอบ เสียทั้งเงินและเวลาโดยใช่เหตุค่ะ

ภาพจาก Celebration Generation

ดังนั้นก่อนที่จะปูกระเบื้องยาง เราจะต้องทำกาปรับพื้นบ้าน ให้ผิวหน้าเรียบ แห้ง แข็ง และสะอาด เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะลงมือทำการติดตั้ง

โดยพื้นชั้นล่างจะต้องทำการตรวจสอบในเรื่องของความชื้นของพื้นก่อน โดยใช้ภาชนะวางคว่ำลงบนพื้น แล้วใช้วัสดุหนักๆวางทับทิ้งเอาไว้สัก 1 คืนก็พอค่ะ เช้ามาก็เปิดดูว่ามีไอน้ำเกาะภายในชามรึเปล่า ถ้าหากมีแสดงว่าพื้นมีความชื้น ไม่เหมาะที่จะติดตั้งกระเบื้องยาง

พื้นมีความชื้นทำไงดีอ่ะ ?


ในกรณีที่พื้นมีความชื้น ก็ไม่ค่อยแนะนำให้เลือกกระเบื้องยางมาปูสักเท่าไหร่ แต่หากต้องการที่จะเลือกใช้วัสดุนี้จริงๆ ก็แนะนำให้มองหาแผ่นลพาสติกกันชื้น มาปูที่ผิวหน้าพื้นเอาไว้เสียก่อน เพื่อป้องกันความชื้นจากพื้นบ้าน แทรกซึมขึ้นมา

ภาพจาก Floors To Your Home

แน่นอนว่าพื้นบ้านของเราแต่ละคนไม่มีเหมือน มีหลากหลายประเภทมาก บางบ้านอาจจะเป็นพื้นปูน พื้นกระเบื้อง หรือพื้นไม้ โดยสำหรับพื้นกระเบื้อง คุณอาจจะรื้อกระเบื้องเก่าออกก่อน หรือ ปูทับไปได้เลย ก็สะดวกดี แต่สำหรับพื้นปูน และพื้นไม้นี่แหละ อาจจะต้องมีการเตรียมความพร้อมกันสักนิด ก่อนลงมือทำ

พื้นปูน พื้นคอนกรีต


ในกรณีที่บ้านของคุณเป็นพื้นปูน พื้นคอนกรีต แนะนำให้ทำการแซะงัดเศษปูนที่อาจจะติดอยู่กันพื้นออกให้หมดเสียก่อน และใช้หินขัด เพื่อทำให้พื้นบ้านเรียบเนียนทุกซอกทุกมุม เมื่อทำการขัดเสร็จแล้ว ให้กวาดทำความสะอาดให้เรียบร้อย

ภาพจาก Stafford's Discount Carpets

กรณีที่พื้นปูน มีรูแหว่ง เป็นร่อง พื้นสูงต่ำไม่ได้ระดับ แนะนำให้ทำการปรับปรุงและตกแต่งด้วยซีเมนต์ให้เรียบร้อยเสียก่อน พร้อมขัดมัน เพื่อเตรียมพื้นให้พร้อมสำหรับการติดตั้งกระเบื้องยาง

หมายเหตุ : พื้นก่อนติดตั้ง จำเป็นต้องแห้งสนิท เพราะฉะนั้นจึงห้ามล้างพื้นด้วยน้ำ ก่อนติดตั้งโดยเด็ดขาด

พื้นไม้


ในกรณีที่บ้านของคุณเป็นพื้นไม้ แนะนำให้ขัดและตกแต่งพื้นหน้าให้เรียบเสียก่อน ซึ่งหากเป็นพื้นไม้เก่า ให้ทำการซ่อมยึดตีตะปูให้แน่นเสียก่อน ถึงจะเริ่มลงมือทำการปูกระเบื้องยางได้ค่ะ

วิธีการปูกระเบื้องยางด้วยตัวเอง


วิธีการปูกระเบื้องยางด้วยตัวเอง ไม่ยาก และไม่ง่าย อาจจะเป็นเรื่องที่ท้ทายสักหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยทำ แต่ถ้าหากคุณลงมือทำแล้วสักครั้ง จะรู้เลยว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยการปูกระเบืองยางมีขั้นตอนที่จะต้องทำความเข้าใจกันก่อนลงมือทำอยู่ 5 ขั้นตอน เริ่มจาก …

วิธีการจับแนว


สำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก เพื่อความสะดวกในการวางและติดตั้งกระเบื้องยาง ควรจะเริ่มต้นติดตั้งจากประตูเข้าไป ให้กำหนดกำแพงด้านที่ยาวที่สุดเป็นหลัก ลากเส้นแนวขนานกับกำแพงหลักเป็นระยะ

ภาพจาก totalfloorsandingandpolishing.com.au

ซึ่งคำนวณดูแล้วว่า เมื่อติดตั้งกระเบื้องเต็มห้องแล้วกระเบื้องแผ่นที่ติดกำแพงที่จะต้องถูกตัดออก นั้นจะมีขนาดเฉลี่ยเท่ากันหมด และไม่เล็กจนเกินไป เมื่อกำหนดแนวเส้นหลักได้แล้ว ให้ทำเครื่องหมายกากบาทที่หัวและท้าย

วิธีการลงกาว


การลงกาวสำหรับการติดตั้งกระเบื้องยาง จะต้องคนกาวในถังผสมกันให้ทั่วก่อน แล้วจึงค่อยเทกาวลงบนพื้นครั้งละประมาณ 1-2 กิโลกรัม ขั้นตอนต่อไปให้ใช้เกรียงที่เซาะร่องฟันปลา ปาดกาวให้สม่ำเสมอ **ไม่ควรลงกาวครั้งนึงเกินกว่า 30 ตารางเมตร

ภาพจาก Capecaves.com

หลังจากลงกาวเสร็จแล้ว ทิ้งเอาไว้สักประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้กาวแห้ง ใช้นิ้วลองแตะๆดูก็ได้ค่ะ ถ้าหากกาวไม่ติดนิ้วของเราแล้ว ให้ใช้เชือกตีเส้นตรงที่ทำเครื่องหมายกากบาทหัวท้ายที่เราทำเอาไว้ตอนจับแนวในขั้นตอนแรก

ทำการดีดสีเส้นเชือกให้ทิ้งรอยเอาไว้เป็นแนวไว้บนกาว การติดตั้งกระเบื้องยาง ให้ติดตามแนวเส้นวางต่อไปเรื่อยๆตามแนวเส้นจนเต็มพื้นที่

วิธีการปูพื้นกระเบื้องยาง


โดยปกติแล้วกระเบื้องยางเนี่ย จะมีการยืดและหดตัว ตามสภาพอากาศ ซึ่งจะสามารถหดตัวทางด้านขวางมากกว่า สังเกตุได้จากเส้นลายบนกระเบื้องยาง ดังนั้นการติดตั้งที่ถูกต้อง จะต้องติดเป็นลายขัด และมุมกระเบื้องยางทุกแผ่นจะต้องติดอย่างสนิทกันกับพื้น

ภาพจาก Flooring Design

เพราะถ้าหากกระเบื้องยางแผ่นที่ติดกำแพงไม่พอดี ก็ต้องทำการตัดกระเบื้องยางด้วยตัวเอง หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ช้ลูกกลิ้งที่มีน้ำหนักประมาณ 50 กก. กลิ้งบดทับ เพื่อให้กระเบื้องยางทุกแผ่นแนบสนิทชิดกับพื้น

วิธีการติดบัวเชิง


ให้เริ่มติดตั้งบัวเชิงผนัง จากมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ตรงรอยต่อที่มุมห้อง หรือมุมเสาให้ตัด ต่อกันเป็นมุม 45 องศา โดยใช้มีดคัตเตอร์ตัดเฉพาะตีนบัวที่ติดกับพื้นเป็นมุม 45 องศา การทากาวยางให้ทาลงบนบัวด้านที่มีร่องและหนังตามความสูงของบัว ส่วนตีนบัวไม่ต้องทาค่ะ

ภาพจาก www.flooringtech.com.au

เมื่อทากาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รอให้แห้งน่จะใช้เวลาประมาณ 10 – 20 นาที พร้อมกับตรวจดูความเรียบร้อยจนมั่นใจก่อนว่าทุกอย่างโอเค จึงค่อยเริ่มติดตั้งเชิงบัวผนังเส้นต่อไป โดยตรงช่วงรอยต่อให้ใช้ “กาวเชื่อม” หยอดเพื่อป้องกันการหดตัวของบัวเชิงผนังจ้า

เก็บขอบ ตัวจบขั้นบันได


ในกรณีที่บริเวณห้องที่คุณปูกระเบื้องยาง เป็นพื้นต่างระดับ ติดกับบันได หรือมีการออกแบบมาแบบยกชั้นขึ้นมา เราจะใช้จมูกยาง และเส้นขอบยาง ติดตั้งบริเวณจบขอบของกระเบื้องยาง ตรงแนวพื้นที่ต่างระดับ หรือขอบบันได โดยการใช้กาวยางทาบริเวณที่ติดตั้ง และทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 – 20 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ภาพจาก loftbourg.com

หมายเหตุ


พื้นที่ติดตั้งกระเบื้องยางเสร็จไม่ควรใช้น้ำล้างทำความสะอาดในทันทีนะคะ ต้องปล่อยให้กาวแห้งเสียก่อนสัก 2-3 วัน ห้ามเคลื่อนย้ายของหนัก ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ และควรเปิดห้องให้โล่ง อากาศถ่ายเท เพื่อระบายกลิ่นของกาว

หากบนกระเบื้องมีรอยเปื้อนสีดำ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างการติดตั้ง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำผสมกับน้ำมันก๊าสเล็กน้อย บิดหมาดๆ เช็ดออกให้สะอาด แต่ควรระมัดระวังด้วยนะเพราะกระเบื้องยางอาจจะสีเพี้ยนได้ อีกทางหนึ่งคือให้ใช้ขี้ผึ้งขัดเงาขัดออกก็ได้เหมือนกันค่ะ

การดูแลรักษา ทำความสะอาด กระเบื้องยาง


การทำความสะอาดประจำวัน ทำได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด อาจจะใส่น้ำยาถูพื้นได้นิดหน่อย เช็ดถูตามซอกมุม แบบธรรมดาๆเลย และสิ่งสำคัญคือควรใช้แว๊กซ์ชนิดน้ำ ลงขัดเงาทุกๆครึ่งเดือน จะช่วยรักษาให้กระเบื้องยางดูสวยเป็นเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ

ภาพจาก shawfloors.com

วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561

เสกห้องน้ำอุดอู้ ให้แลดูมีชีวิตชีวา !

ห้องน้ำเนี่ย เป็นอีกห้องที่เราจะต้องใช้งานทุกเช้าสายบ่ายเย็น บางคนก็ชอบไปนั่งแช่เล่นมือถือในห้องน้ำกันอยู่บ่อยๆใช่ไหมล่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ห้องน้ำก็เป็นอีกห้อง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุมดำ ดึงดูดให้เราอยู่ได้เป็นชั่วโมง จนบางทีคนจะอาบน้ำต่อถึงกับต้องมาทุบเรียก ! “แกเข้าไปนอนหลับรึไงกัน!?”

ภาพจาก hgtv.com

แต่หลายคนก็บอกว่า ห้องน้ำเนี่ยนะ ไม่เห็นจะอยากเข้าไปนั่งแช่นานๆเลย นั้นก็เพราะคุณอาจจะยังไม่รู้จักกับความฟินของห้องน้ำที่แท้ทรู วันนี้เลยแวะเอาเคล็ดลับและไอเดีย การเสกห้องน้ำอันแสนอุดอู้ ให้หลายเป็นห้องน้ำที่ดูเหมือนใหม่ และมีชีวิตชีวา เสริมสร้างบรรยากาศ และเพิ่มอรรถรสในการอาบน้ำแบบฟินๆให้กับคุณมากยิ่งขึ้น !

กระเบื้องห้องน้ำ


ไอเดียแรก อาจจะเหมาะสำหรับคนที่กำลังสร้างบ้านใหม่ หรือคิดวางแผนรีโนเวทบ้านกัน แนะนำให้เลือกกระเบื้องห้องน้ำที่มีสีสันสดใส จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องน้ำ ให้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ภาพจาก Zillow

หรือคุณอาจจะคิดธีมให้กับห้องน้ำที่บ้านอย่าง Under the Sea หรือ Summer Beach อะไรแบบนี้ แล้วก็เลือกของตกแต่งมาจัดวางตามมุมห้องน้ำให้เหมาะกับธีม อย่างเช่น ผ้าม่านพลาสติกลวดลายท้องทะเล กระเบื้องห้องน้ำลายเปลือกหอยน่ารักๆ เป็นต้น

โทนสีห้องน้ำ


โทนสีของห้องน้ำ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะเสริมให้บรรยากาศดูสดใสและทำให้ทุกคนอยากจะอาบน้ำน๊านนานในทุกๆวันเลยล่ะ เคล็ดลับเล็กๆสำหรับการเลือกโทนสีห้องน้ำก็คือ ห้องน้ำหากมีขนาดเล็ก ควรเลือกเน้นตกแต่งด้วยโทนสีขาวเป็นหลัก ช่วยทำให้ห้องน้ำดูสว่างและกว้างขวางมากขึ้น

ภาพจาก design-decoration-ideas.com

คุณอาจจะผสมผสานโทนสีที่มีความหลากหลาย เพื่อช่วยกระตุ้นความสดชื่นในร่างกายคุณในทุกๆวัน อย่างพวกโทนสี เหลือง ฟ้า ส้ม เขียว เป็นต้น

ของตกแต่งกิ๊บเก๋


การเลือกของตกแต่ง ก็จะต้องเลือกอะไรที่เหมาะๆกับธีมการตกแต่งห้องน้ำด้วยนะ อย่างเช่น ห้องน้ำธีม Summer Beach ก็อาจจะเลือกของตกแต่งแบบ ริมทะเลสดใส ห่วงยาง กุ้ง หอย ปู ปลา อะไรก็ตามที่ให้ความรู้สึกสดใสเหมือนกับได้นอนอาบแดดพักผ่อนอยู่ริมชายทะเล

ภาพจาก marceladick.com

แสงสว่างและการระบายอากาศ


เพิ่มแสงสว่างและช่องระบายอากาศให้ภายในห้องน้ำ เป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้ห้องน้ำดูสดใส สว่างไสวและมีชีวิตชีวา และที่สำคัญคือ อากาศภายในห้องหมุนเวียน ไร้กังวลเรื่องของปัญหากลิ่นอับชื้น เชื้อโรค หรือเชื้อรา อีกด้วย

ภาพจาก bathroomsites.com

นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความสว่างจากหลอดไฟ LED สำหรับภายในห้องน้ำ แนะนำให้ใช้แสงสีขาวแบบสว่างทั่วถึงทุกมุม เพราะภายในห้องน้ำเนี่ย เป็นห้องที่เปียกอยู่แทบจะตลอด หากความสว่างภายในห้องนอนไม่เพียงพออาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้

ทำความสะอาดห้องน้ำ


การทำความสะอาดห้องน้ำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 1 อาทิตย์เนี่ย จะต้องทำอย่งน้อย 1-2 ครั้ง เพราะหากเราปล่อยปะละเลยห้องน้ำ ไม่ยอมทำความสะอาด ตามร่องกระเบื้อง ตามซอกหลืบต่างๆ ก็จะเต็มไปด้วยคราบสกปรกสะสม

ภาพจาก criticalshots.com

ดังนั้นการทำความสะอาดห้องน้ำ จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อสุขอนามัยที่ดี ของทั้งตัวคุณเองและครอบครัวนะคะ

วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

สีทาบ้านแบบไหนแจ่ม แบบไหนโดน บ่งบอกความเป็นตัวคุณ

ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือตกแต่งบ้าน สิ่งที่เราจะต้องมานั่งตัดสินใจกันก่อนเลยก็คือเรื่องของธีมโทนสี หรือสีทาบ้าน ว่าจะเลือกเป็นโทนสีแบบไหนถึงจะเหมาะ สีอะไรที่จะสามารถสร้างความโดดเด่น และบ่งบอกความเป็นตัวของคุณเองได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ภาพจาก HGTV.com

ไม่ว่าสีทาบ้าน จะเป็นโทนสีเข้ม หรือ โทนสีอ่อน หากเราเลือกใช้ตกแต่งผนังบ้านอย่างเหมาะสม ผสมผสานทุกอย่างให้เข้ากันอย่างลงตัว ดึงความโดดเด่นและคุณสมบัติของแต่ละโทนสีให้ออกมาสวยงามอย่างเพอร์เฟค

สีทาบ้านเปลี่ยนบรรยากาศภายใน


การเลือกโทนสีทาบ้าน เป็นตัวช่วยปรับเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นอีกปัจจัย ที่จะทำให้ภายในบ้านของเราดูกว้าง หรือ ดูแคบลงอีกด้วยนะ

ภาพจาก ideasonthemove.com

ตัวอย่างเช่น หากห้องภายในบ้านของคุณ ไม่ได้กว้างขวางมากนัก สีทาบ้านที่เหมาะจะเป็นโทนสีอ่อนๆ เพราะจะช่วยทำให้บรรยากาศภายในดูสว่าง และไม่น่าอึดอัด แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากคุณเลือกเป็นโทนสีเข้ม ทาภายในห้องที่มีขนาดเล็ก จะทำให้ภาพรวมของห้องดูคับแคบ และน่าอึดอัด

โทนสีทาบ้านบ่งบอกความรู้สึก


สำหรับบทความนี้ จะมาแนะนำในเรื่องของไอเดียการเลือกสีทาบ้านเฉดสีต่างๆ มาให้ดูกันเป็นตัวอย่าง รับรองว่าจะต้องสวยและโดนใจทุกๆท่านอย่างแน่นอน หากใครที่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่า จะตกแต่งบ้านด้วยโทนสีทาบ้านแบบไหน อ่านบทความนี้จบอาจจะปิ๊งไอเดีย ตัดสินใจได้เลยทันที !

สีทาบ้าน : สีเทาควันบุหรี่กับสีขาว


หากขนาดของห้องที่บ้านของคุณ ไม่กว้างขวางมากนัก การเลือกใช้สีทาบ้านโทนอ่อนๆ อย่างสีเทาแบควันบุหรี่ ผสมกับโทนสีขาว จะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา ให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก Atlanta Home Improvement

สีทาบ้าน : สีน้ำตาล


ลองปรับเปลี่ยนห้องให้ดูอบอุ่นและคลาสสิคมากขึ้นด้วยการเลือกใช้สีทาบ้าน โทนสีน้ำตาล อ่อนเข้ม ไล่เฉดสีให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น โทนสีน้ำตาล เหมาะมากหากคุณกำลังมองหาสไตล์การตกแต่งบ้านที่ดูเป็นธรรมชาติ และเข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์

ภาพจาก cuttingedgepaintingnm.com

สีทาบ้าน : สีเขียว


สีทาบ้านโทนสีเขียว เป็นโทนสีที่สามารถช่วยในเรื่องของการสร้างบรรยากาศภายในให้ดูใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผ่อนคลาย ละมุนสายตามากๆ ยิ่งผสมผสานกับพวกโทนสีพาสเทล สีขาวเนี่ย บอกเลยว่าสวยหวาน และดูอ่อนโยนมากๆ เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุไม้ เน้นโทนสีอ่อนๆ บอกเลยว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวสุดๆ

ภาพจาก News and Talk about Home Decorating Ideas

สีทาบ้าน : สีขาวบริสุทธิ์


หากคุณเป็นคนชอบอะไรเรียบง่าย โทนสีขาวบริสุทธิ์เป็นโทนสีสุดเบสิค ที่หลายๆคนเลือกใช้เป็นโทนสีหลักในการตกแต่งภายใน เพราะสีขาว เป็นโทนสีที่เหมาะกับทุกสไตล์ ทุกดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน สีขาวก็สามารถผสานเข้ากันได้อย่างสวยงามและลงตัว

ภาพจาก Trendir

สีทาบ้าน : สีฟ้าสดชื่น


โทนสีฟ้า เป็นโทนสีที่สดใสและมีชีวิตชีวา เหมือนกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆสีขาวปุยนุ่ม เหมาะมากที่จะนำมาใช้ตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องครัว โทนสีฟ้า ก็สามารถนำโทนสีฟ้ามาใช้ตกแต่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ภาพจาก Lushome

สีทาบ้าน : โทนสีดำ


หากคุณเป็นคนชอบสไตล์คลาสสิค โมเดิร์น หรือลุคเท่ห์ๆ คูลๆ โทนสีดำ เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับคุณค่ะ เพราะโทนสีดำ สามารถสร้างบรรยากาศสุขุมนุ่มลึก ให้กับการตกแต่งภายในได้เป็นอย่างดี ผสมผสานกับโทนสีอื่นได้หมดทุกสี ไม่ว่าจะ ขาว แดง ม่วง เหลือง ฯลฯ เข้ากันดีและลงตัวมากๆ

ภาพจาก Pinterest

สีทาบ้าน : เติมความหวานด้วยโทนสีชมพู


สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านแบบหวานๆ เน้นเลือกโทนสีชมพู ผสมกับสีขาว หรือสีพาสเทลอื่นๆ เป็นอะไรที่ดูมุ้งมิ้ง ตะมุตะมิ น่ารักมากเลยทีเดียว ยิ่งถ้าหากคุณอยากแต่งบ้านให้ดูเป็นเจ้าหญิง สไตล์แชบบี้ชิค เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก ที่จะเติมความฝันให้เป็นจริง

ภาพจาก xboxhut.com

สีทาบ้านโทนสีไหน ที่บ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวคุณมากที่สุด ก็เลือกโทนสีนั้นไปใช้ตกแต่งบ้านเนอะ จะสวยในสายตาคนอื่นหรือไม่ เราไม่แคร์ เราเน้นสวยในสายตาของเราก็พอ 5555 หวังว่าทุกคนจะมองเห็นภาพกันเนอะ ว่าแต่ละโทนสี ก็เปลี่ยนบรรยากาศบ้านของเราได้แบบ หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว หากใครคิดว่าอยากจะเปลี่ยนบ้านให้ดูใหม่ ลองเลือกสีทาบ้านสักสีนึงสิ รับรองถูกใจแน่นอน !

วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561

การเลือกเตียงนอนหลับพักผ่อนสบายกายและใจ

ห้องนอน เป็นเหมือนกับหัวใจสำคัญของเราทุกคน เพราะไม่ว่าคุณจะออกไปเที่ยวไกลแค่ไหน คุณก็ต้องกลับบ้านมานอนบนเตียงนอนเตียงเดิมอยู่เสมอ และใช้เวลา 1 ใน 3 ของ 24 ชั่วโมงแต่ละวัน นอนหลับพักผ่อนอยู่บนเตียงนอน ยิ่งวันหยุด ไม่ต้องพูดถึงค่ะ นอนกันยาวๆเลยทีเดียว

ภาพจาก Mattress Firm Blog

เมื่อเราใช้ชีวิตแบบ แทบจะ 1 ใน 3 ไปกับการนอน การเลือกเตียงนอน ที่มีความเหมาะสม จึงมีความสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยทำให้เรานอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายทั้งร่างกายและจิตใจ

การเลือกเตียงนอน


การเลือกเตียงนอนอย่างเหมาะสม ก็มีปัจจัยอยู่ไม่กี่อย่างที่ต้องนำมาพิจารณา อาจจะเป็นแง่มุมของการตกแต่ง ความสวยงาม หรือการจัดการเรื่องของความสะอาด เป็นต้น

แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว บ้านเราโซนเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย การตกแต่งจะเน้นแบบเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ไม่ต้องเยอะแยะอะไร เน้นการใช้ประโยชน์เป็นหลัก

สร้างความสมดุล


ขนาดของเตียงนอน เป็นอีกอย่างที่ต้องนำมาพิจารณาให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง ถ้าหากห้องนอนเล็กนิดเดียว แต่เลือกเตียงนอนขนาดแบบจัดเต็ม มันจะกลายเป็นว่าห้องนอนแลดูน่าอึดอัดและคับแคบ

ภาพจาก www.loomandleaf.com

รวมไปถึงการจัดวางตำแหน่งของเตียงนอน จะต้องวางอย่างสมดุล เน้นสร้างความสะดวกสบายในการใช้สอยพื้นที่ ซึ่งหลักการส่วนใหญ่แล้วก็จะวางให้สมดุลทั้งซ้ายและขวา ยึดตำแหน่งการวางเตียงที่ศูนย์กลางของห้องนอนจะเหมาะที่สุด

ความสมดุลของสรีระน่างกายกับเตียงนอน


ก่อนตัดสินใจซื้อเตียงนอนและฟูกนอนเนี่ย เราต้องดูสรีระร่างกายของตัวเองก่อน เพราะถ้าหากเราเลือกเตียงนอนที่มีขนาดเล็กและสั้น ไม่สมส่วนกับส่วนสูงของคุณ เวลานอนอาจจะเกิดความไม่สบายตัว เป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อยร่างกาย

นอกจากนี้การเลือกเตียงนอนขนาดเล็กเกินไป อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะเวลาเราพลิกตัวขณะนอนหลับ หากไม่ระวัง อาจจะพลิกตกเตียงไปเลยแบบไม่ทันตั้งตัว ทีนี้เวลาเราจะนอนก็ต้องคอยระวัง ระแวง หลับไม่สนิทไปอีก

ภาพจาก Four Seasons

ฟูกนอน


เมื่อเราได้เลือกเตียงนอนที่มีดีไซน์และขนาดที่สมส่วนแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องของการเลือกฟูกนอน ซึ่งทั่วไปจะนิยมเป็นแบบสปริง ที่มีราคาไม่ค่อยสูง สามารถนอนหลับได้อย่างสบาย พลิกตัวไปมาได้อย่างยืดหยุ่น แถมยังมีอายุการใช้งานค่อนข้างที่จะยาวนาน และความทนทานสูง

ภาพจาก www.roomandboard.com

แต่หากใครที่ต้องการที่นอนแบบเพื่อสุขภาพ แนะนำให้เลือกเป็นที่นอนยางพารา ที่ผลิตมาจากใยธรรมชาติแทน ความโดดเด่นของที่นอนยางพารา คือความยืดหยุ่นของที่นอน เวลาเราทิ้งตัวลงบนที่นอน ที่นอนยางพาราจะยวบไปตามสรีระร่างกายของเราเลย

ทำให้เวลานอนพลิกตัวไปมา ไม่กระทบกระเทือนคนข้างๆ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาอาการนอนปวดหลังได้ดีอีกด้วยค่ะ หากใครมีอาการปวดเมื่อยเวลานอน ลองเปลี่ยนมาใช้ที่นอนยางพารากันดูนะ

ความสว่างในห้องนอน


ไม่เพียงแต่เตียงนอน และฟูกนอนเท่านั้นมีส่งผลทำให้เรานอนหลับอย่างสบาย เรื่องของแสงสว่าง ก็เป็นอีปปัจจัย ที่จะทำให้เราสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ยอ่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าคุณจะมีเตียงนอนใหญ่สักแค่ไหน ฟูกนอนนุ่มนิ่มสักเพียงใด แต่หากห้องนอนของคุณ ไม่มีหน้าต่างรับแสง หรือระบายอากาศก็ถือว่าจบ

ภาพจาก shopbedside.com

เพราะความสว่าง และการระบายอากาศภายในห้องนอน เป็นตัวช่วยกำจัดกลิ่นอับและเชื้อแบคทีเรียที่ดีที่สุด ซึ่งถ้าหากห้องนอนของเราขาดแสงแล้วล่พก็ กลิ่นอับถามหาแน่ๆค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

โต๊ะ เลือกยังไงไม่ให้เกะกะบ้าน !

โต๊ะ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่แล้ว โต๊ะ ก็จะมาคู่กับ เก้าอี้ ล่ะเนอะ เป็นของคู่กันที่ขาดไปไมได้ แต่ก็มีโต๊ะอยู่บางประเภท ที่ไม่ต้องใช้งานคู่กับเก้าอี้ อย่างเช่น โต๊ะกาแฟ โต๊ะญี่ปุ่น โต๊ะกลาง เป็นต้น

ภาพจาก atlantamagazine.com

ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับโต๊ะภายในบ้านกัน ว่ามีแบบไหนให้ใช้งานกันบ้าง และโต๊ะแต่ละแบบจะเหมาะกับงานในลักษณะไหนบ้าง จะได้เก็บไว้เป็นไอเดียในการเลือกโต๊ะตกแต่งบ้านกันเนอะ

โต๊ะในห้องนั่งเล่น


เรามาเริ่มกันก่อนที่โต๊ะในห้องนั่งเล่น ไม่มีโต๊ะอะไรมากมาย เหมือนกับห้องอื่น ส่วนใหญ่แล้วโต๊ะในห้องนั่งเล่น ก็จะเป็นโต๊ะกาแฟ โต๊ะกลาง สำหรับวางขนม วางน้ำดื่ม อะไรพวกนี้มากกว่า เป็นส่วนประกอบที่จะไม่มีก็ได้ แต่ถ้าหากมีวางไว้ก็ดี (ฮ่าๆ)

ภาพจาก MarinaSays

โต๊ะในห้องครัว


ในห้องครัวเป็นห้องที่อาจจะต้องมีโต๊ะเยอะขึ้นมาสักหน่อย เป็นโต๊ะกลางรูปแบบเคาน์เตอร์ หรือเป็นโต๊ะสำหรับจัดเตรียมวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ซึ่งถ้าเป็นโต๊ะแบบติดล้อด้วยจะดีมาก สำหรับห้องครัวที่กว้างหน่อย จะได้เคลื่อนย้ายจัดเตรียมได้สะดวกมากขึ้น

ภาพจาก Pinterest

โต๊ะในห้องรับประทานอาหาร


ห้องรับประทานอาหาร เป็นห้องที่มีโต๊ะหลากหลายแบบให้เลือก ส่วนใหญ่แล้วจะมาเป็นชุดๆ พร้อมกับเก้าอี้คู่กันด้วยเลย ถ้ากเป็นห้องรับประทานอาหารในคอนโด ก็อาจจะเลือกชุดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2-4 คนก็เพียงพอ หรือหากที่บ้านคุณ มีห้องทานอาหารแยกออกมาห้องนึง ก็เลือกเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบชุดใหญ่ไปเลย

ภาพจาก Pinterest

โต๊ะในห้องน้ำ


โต๊ะในห้องน้ำ อาจจะมี หรือไม่มีก็ได้เนอะ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ซึ่งส่วนตัวคิดว่า มีเอาไว้สักหน่อยก็ดี เพราะหลายคนชอบเอาหนังสือ หรือโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องน้ำด้วย จะได้มีจุดสำหรับวางของ ไม่ต้องกังวลว่ามือถือจะหล่น นังสือจะเปียก

ภาพจาก gen4congress.com

โต๊ะในห้องนอน


โต๊ะในห้องนอน มีไว้ก็ดี เพราะในห้องนอนเนี่ย ก็มีของเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะสาวๆ ที่อาจจะมีของกระจุกกระจิกเยอะมากกว่าผู้ชายสักหน่อย มีทั้งกระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า accessories เต็มไปหมด การที่มีโต๊ะเอาไว้วางของพวกนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันค่ะ

ภาพจาก Acmchome.com

โต๊ะในห้องทำงาน


ห้องทำงาน เป็นห้องที่เราใช้สมาธิไปกับความคิดต่างๆ และโต๊ะทำงานก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะต้องใช้งานอยู่ตลอดเวลา การเลือกโต๊ะทำงานให้เหมาะสม จึงมีความสำคัญและส่งผลค่อเนื้องานอย่างมาก โต๊ะทำงาน ไม่ควรที่จะสูง หรือเตี้ยเกินไป และจะต้องมีความกว้างขวางมากพอ ที่จะวางเอกสาร คอมพิวเตอร์ หรือของใช้ต่างๆเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน

ภาพจาก AVSO

โต๊ะริมระเบียง


ริมระเบียงก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่หลายคนชอบจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน การเพิ่มโต๊ะและเก้าอี้นั่งเล่น และจัดมุมสวนเล็กๆเข้าไป จะช่วยสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายให้กับที่อยู่อาศัยได้ดีเลยทีเดียว นั่งจิบชาดื่มกาแฟแบบฟินๆ มองวิวบรรยากาศภายนอกยามเช้า หรือยามค่ำคืน บอกเลยว่าเพลินมากๆค่ะ

ภาพจาก Fermob

โต๊ะในสวน


หากที่บ้านคุณจัดสวนสวยๆเอาไว้เต็มพื้นที่ ลองเลือกโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นภายนอกเอาไว้สักชุด ในวันหยุดก็นั่งกินลมชมวิว พักผ่อนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศธรรมชาติ ลมพัดเย็นๆ ปั่นน้ำผลไม้สักแก้วมานั่งดื่ม เป็นไอเดียที่ช่วยฮีลร่างกายและจิตใจอันเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอด 5 วันได้ดีเลยทีเดียว

ภาพจาก Flickr

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

เลือก “เก้าอี้” อย่างไรใช้งานสะดวก

เก้าอี้ เป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชนิดที่ทุกบ้าน จะต้องมีไว้ใช้งาน โดยทั่วแล้วมักจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้งาน 1 ตัวต่อ 1 คน แต่ก็มีเก้าอี้บางประเภท ที่ออกแบบมาเพื่อนั่งมากกว่า 1 คนอย่างเช่น เก้าอี้สนามที่วางในสวน หรือเก้าอี้ตามสถานที่บริการต่างๆ

ภาพจาก Pinterest

โดยดีไซน์ของเก้าอี้อาจจะมีพนักพิงหรือไม่มีอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เราสามารถแบ่งประเภทของเก้าอี้ออกเป็น 2 ประเภทหลักๆคือ


  • แบ่งประเภทเก้าอี้ตามโครงสร้าง
  • แบ่งประเภทเก้าอี้ตามการใช้งาน


ประเภทเก้าอี้แบ่งตามโครงสร้าง


เก้าอี้ หากแบ่งออกตามโครงสร้างหรือวัสดุ ก็จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ เก้าอี้โครงไม้ เก้าอี้โครงเหล็ก และเก้าอี้โครงพลาสติก ซึ่งโครงสร้างของแต่ละประเภท ก็มีความแข็งแรงทนทานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานก็แล้วแต่สถานที่ หรือสไตล์การตกแต่ง

ภาพจาก intercine.net

ประเภทเก้าอี้แบ่งตามการใช้งาน


เก้าอี้ สามารถแบ่งออกตามประเภทของการใช้งานได้เช่นกัน โดยการแยกแบบนี้จะแจกแจงรายละเอียดได้มากกว่า อย่างเช่น เก้าอี้สำนักงาน เก้าอี้คอม เก้าอี้โต๊ะจีน แบบเนี้ย เราจะเห็นภาพได้มากกว่าใช่ไหมล่ะ

ความสำคัญของเก้าอี้


เก้าอี้เนี่ย ดูเหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์แสนธรรมดา แต่ถ้าหากเราขาดเก้าอี้ไป เราคงจะเมื่อยขา เมื่อยหลังเป็นแน่ และเมื่อเราทำความรู้จักกับการแบ่งประเภทของเก้าอี้แล้ว ทีนี้เรามาดูกันต่อในเรื่องของความสำคัญของเก้าอี้ และการเลือกเก้าอี้ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน แบบไหนถึงจะเหมาะกับเรามากที่สุด

ภาพจาก Vitra

เก้าอี้ เป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับการนั่งพักผ่อน ดังนั้นการเลือกเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระร่างกายของคน จะช่วยทำให้การนั่งรู้สึกสบายตัว และไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะเก้าอี้ที่เรานั่งทำงานทุกวัน วันละอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เรียกได้ว่านานพอสมควรเลย การเลือกเก้าอี้ทำงาน จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมในระดับเริ่มต้น

เลือกจากวัสดุเก้าอี้


นอกจากพวกรูปลักษณ์แล้ว เรื่องของวัสดุที่ใช้ เป็นอีกองค์ประกอบหลักๆในการนำมาประกอบการพิจารณาเลือกเก้าอี้มาใช้งาน วัสดุที่ใช้มีการถ่ายเทอุณภูมิได้ดีหรือไม่ ใช้งานนั่งไปนานๆ จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายรึเปล่า อันนี้ต้องนำมาคิดให้ถี่ถ้วนค่ะ

ภาพจาก acasadisimi.com

เลือกจากรูปแบบเก้าอี้


เลือกรูปแบบให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่จะใช้ คือ คำนึงถึงเวลาที่เราจะนั่งใช้งาน การออกแบบเก้าอี้จะมีพนักพิง มีที่เท้าแขน ปรับระดับความสูงต่ำของเก้าอี้ได้หรือไม่ ทดลองนั่งแล้วเหมาะกับสรีระของเรารึเปล่า สิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ เป็นหลักการเลือกเก้าอี้แบบคร่าวๆที่สามารถนำไปใช้ได้จริงค่ะ

ภาพจาก Freshome.com

ในกรณีที่เก้าอี้ไม่สามารถปรับระดับได้ ควรทดลองนั่งดูก่อนว่าเหมาะกับความสูงของเราหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นเก้าอี้แบบ ใช้งานนั่งไม่นานนัก ก็อาจจะไม่ต้องคิดมากอะไร แต่หากเป็นเก้าอี้สำหรับนั่งทำงาน แนะนำให้เลือกแบบที่ปรับได้จะเหมาะมากกว่า

ภาพจาก theluxhome.com

ความลึกของเก้าอี้ ความหนาของขอบเบาะเก้าอี้ ก็เป็นเรื่องที่ควรนำมาพิจารณาประกอบเช่นกัน เพราะหากเรานั่งไปนานๆ การที่ความลึกของเก้าอี้มีความสั้นเกินไป ช่วงขาของเราจะรู้สึกนั่งเกร็ง นั่งไม่เต็มก้น นั่งแล้วรู้สึกไม่สบายตัว

เก้าอี้แบบมีล้อ หรือหมุนได้ เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่ออฟฟิศมาก เพราะเวลาเราจะหันไปคุยงานกับใคร ก็ไม่ต้องยกหรือหมุนเก้าอี้ให้เสียเวลาค่ะ

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

เลือกผ้าม่านตกแต่งบ้านสวยลงตัวทุกมุมมอง

หากคุณกำลังมองหาไอเดียการตกแต่งบ้านให้ดูสวยและโดดเด่นทุกมุมมองอยู่ล่ะก็ บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดในการเลือกผ้าม่านลวดลายเก๋ๆ หรือคุมโทนเรียบง่ายมาใช้ในการตกแต่งหน้าต่าง หรือประตูบ้าน สามารถช่วยสร้างความสะดุดตาให้กับการตกแต่งภายในได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวค่ะ

ภาพจาก Lushome

แต่การเลือกผ้าม่านลวดลายเก๋ๆ หรือผ้าม่านโทนสีแปลกแหวกแนว รวมไปถึงประเภทของผ้าม่าน ซึ่งบางครั้งถ้าหากเราเลือกผิด ชีวิตเปลี่ยนได้เหมือนกัน จากบ้านที่คิดว่าจะต้องออกมาสวยปัง กลับกลายเป็นดูขัดๆสายตาชอบกล

เคล็ดลับการเลือกผ้าม่านสวย


วันนี้เลยจึงหยิบยกเทคนิคการเลือกผ้าม่าน ไม่ว่าจะลวดลาย โทนสี หรือประเภทของผ้าม่าน อย่างถูกวิธี เพื่อนำมาใช้ตกแต่งภายในบ้านให้เหมาะสมกับทุกห้อง ไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว หรือห้องรับแขก ด้วยเคล็ดลับแสนง่าย ที่คุณเองก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปเลือกผ้าม่านมาตกแต่งบ้านให้ดูสวยได้เลยทันที !

ภาพจาก erahomedesign.com

ใช้ผ้าม่านโทนสีเดียวกันทั้งบ้าน


เคล็ดลับการตกแต่งบ้านให้ดูสวยปัง อันดับแรกคือการเลือกลวดลายผ้าผ่านและโทนสี ให้เป็นโทนเดียวกันเลยทั้งบ้านไปเลยง่ายดี แต่ … ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกโทนสีเดียวกันไปสียหมดนะคะ เพราะแต่ละห้องที่บ้าน ก็จะมีสไตล์การตกแต่งบ้านที่แตกต่างใช่ไหมล่ะ ดังนั้นเลือกผ้าม่านโทนสีพื้นๆ เลือกสีให้เหมาะกับการตกแต่งถายในแต่ละห้อง จะเหมาะสมมากที่สุด

ภาพจาก Decoist

ฟังก์ชันการใช้งานที่ต้องการ


ผ้าม่าน เป็นตัวช่วยบดบังความเป็นส่วนตัว และบดบังแสงจากภายนอก ที่สาดส่องเข้าสู่ภายในให้กับภายในบ้าน ซึ่งคุณจะต้องตอบโจทย์ก่อนว่า จะติดตั้งผ้าม่านเพื่ออะไร เมื่อคุณได้คำตอบแล้ว ก็จะสามารถเลือกผ้าม่านที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุดแล้วล่ะค่ะ

ปิดกั้นความเป็นส่วนตัว


หากคุณต้องการติดตั้งผ้าม่านเพื่อปิดกั้นความเป็นส่วนตัว แนะนำให้เลือกเป็นผ้าม่านแบบทึบไปเลยจะเหมาะสมมากกว่า หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นมู่ลี่ก็ได้ เวลาอยากจะปิดกั้นความเป็นส่วนตัว ก็ปรับมู่ลี่ปิดไปเลย หรืออยากจะเปิดรับแสง ก็หมุนมู่ลี่เปิดได้เลย ส่วนใหญ่เราจะเห็นได้ตามออฟฟิศ สำนักงานทั่วไป

ภาพจาก blinds-2go.co.uk

กรองแสง บดบังแสง


สำหรับผ้าม่านที่ใช้สำหรับกรองแสง เป็นผ้าม่านผืนบางพริ้วปลิวไสว ที่แสงจากภายนอกสามารถสาดส่องเข้าสู่ภายในได้ โดยที่ยังคงความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านได้เช่นกัน แต่หากคุณต้องการที่จะผสมผสานทั้งผ้าม่านแบบทึบและแบบโปร่งแสงเข้าด้วยกัน แนะนำให้ติดรางม่านแบบคู่ ที่ส่วนนอกสุดแขวนผ้าม่านแบบโปร่ง และส่วนในบ้านเป็นแบบทึบ คุณสามารถเลือกปิดม่านในแบบที่คุณต้องการได้แบบสะดวก

ภาพจาก idolza

เข้าใจเรื่องของแสงสว่าง


ผ้าม่านแต่ละชนิด สามารถช่วยควบคุมในเรื่องของแสงที่ลอดผ่านหน้าต่างได้แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกผ้าม่าน จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับห้องแต่ละห้อง และความต้องการแสงสว่างแต่ละจุด

ยกตัวอย่างเข่น ผ้าม่านแบบหนาหน่อย ก็จะเหมาะกับห้องนอน ที่สามารถควบคุมแสงได้ดี หรืออาจจะเป็นผ้าม่านแบบป้องกันแสง UV ช่วยลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

ภาพจาก rinceweb.com

วัสดุผ้าม่าน


ปัจจุบันตามท้องตลาดผ้าม่าน มีให้เลือกหลากหลายวัสดุมาก แต่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศบ้านเรา แนะนำให้เลือกผ้าม่านที่ทำจากวัสดุที่คงทนต่ออุณภูมิและความร้อน โดยเฉพาะห้องที่มีหน้าต่างหันไปทางทิศตะวันตก ช่วงบ่ายๆเนี่ยบอกเลยว่าร้อนสุดจะทน ผ้าม่านป้องกันแสงจะสามารถช่วยทำให้ห้องในบ้านเย็นขึ้นได้ระดับนึงค่ะ

ภาพจาก www.blinds-2go.co.uk

ผ้าม่านสวยอย่างมีสไตล์


ถึงแม้จะบอกว่าให้เลือกผ้าม่านแบบเรียบ โทนสีเดียวมาใช้ตกแต่งบ้านจะเหมาะมากที่สุดก็ตาม แต่ในบางอารมณ์เราก็อยากที่จะมีโมเม้นต์ตกแต่งบ้านด้วยสไตล์ที่แปลกใหม่ เพิ่มเติมลวดลายและ texture ลงบนผ้าม่าน สร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และสะดุดตาให้กับการตกแต่งภายใน เป็นอีกไอเดียที่อยากแนะนำให้ไปลองกันดูจ้า