วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การจัดฮวงจุ้ยประตูบ้าน เปิดรับสิ่งดีๆเข้าสู่ชีวิต

ประตูบ้านก็เป็นเหมือนกับประตูที่เปิดรับสิ่งดีดีเข้าสู่ตัวบ้าน เป็นหน้าด่านแรกที่ทุกคนจะต้องเดินผ่านทุกวัน ดังนั้นเรื่องของการจัดฮวงจุ้ยให้กับประตูบ้าน โดยรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ อย่างเช่นรั้วบ้าน ทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน ไปจนถึงเฉลียงหน้าบ้าน

ภาพจาก archiexpo.com

สำหรับบทความนี้ก็จะมาไล่ดูเรื่องของการจัดฮวงจุ้ยประตูบ้าน ตั้งแต่รั้วบ้านไปจนถึงทางเข้าหน้าบ้านกันไปเลย ว่าตามหลักฮวงจุ้ยแต่ละส่วนจะต้องมีอะไรประกอบ และจะต้องจัดตกแต่งอย่างไรถึงจะเรียกสิ่งดีดีเข้าสู่ชีวิตของเราเองค่ะ เริ่มจาก…

จัดฮวงจุ้ยรั้วบ้าน


รั้วบ้านที่ดี จะต้องเป้นรั้วบ้านที่โปร่ง ไม่ปิดมืดทึบ สามารถเช็คด้วยสายตาของเราเองก็ได้ค่ะว่า รั้วบ้านเราโปร่งหรือทึบ ด้วยการประมาณเอาว่า ส่วนทึบจะต้องไม่เกิน 50% ถ้าหากเกินก็จัดว่าเป็นรั้วบ้านทึบ ถ้าหากไม่เกินก็จัดว่าเป็นรั้วบ้านแบบโปร่ง โดยรั้วบ้านที่ดีจะต้องมีช่องเพื่อให้ลมพัดผ่านพาพลังงานบวดเข้าสู่ภยในบ้านได้ง่ายค่ะ

ภาพจาก myfancyhouse.com

ฮวงจุ้ยบริเวณพื้นที่หน้าประตูบ้าน


บริเวณพื้นที่หน้าประตูบ้าน นับว่าเป็นอีกส่วนที่พักรวมพลังงานที่จะพัดผ่านเข้าสู่ตัวบ้าน ควรเคลียร์พื้นที่และทำความสะอาดให้บริเวณหน้าประตูบ้านดูโล่งอยู่เสมอ ไม่ควรนำสิ่งของมาวางเอาไว้เกะกะ หากต้องการปลูกต้นไม้ แนะนำให้ปลูกริมๆ เยื้องประตู เพื่อให้เกิดช่องทางพลังงานเข้าได้อย่างสะดวก

ตำแหน่งต้องห้ามตามหลักฮวงจุ้ย


เมื่อเรารู้กันแล้วว่า ควรที่จะจัดรั้วบ้านและบริเวณหน้าประตูบ้านอย่างไรถึงจะถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เรามาดูกันต่อในส่วนของตำแหน่งต้องห้าม ที่อาจจะพักพาพลังงานด้านลบเขามาสู่บ้านของเราแทน ได้แก่

ไม่ควรจัดวางประตูบ้านในตำแหน่งตรงกันข้ามกับประตูบ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้านของเรา เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดการปะทะกัน ผู้อยู่อาศัยเกิดความไม่เป็นส่วนตัว แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ในกรณีที่เราไม่ได้เป็นคนวางแผนผังออกแบบบ้านเอง แนะนำให้ต่อเติมเฉลียงหน้าบ้านขึ้นมาเป็นส่วนบดบังแทนก็ได้ค่ะ

ภาพจาก hgtv.com

ไม่ควรจัดวางตำแหน่งประตูตรงกับเสาไฟฟ้า เนื่องจากเสาไฟฟ้าจัดว่าเป็นพลังงานด้านลบ ซึ่งส่งผลไม่ดีต่อผู้อยู่อาศัย และไม่ควรตรงกับประตูรั่วหน้าบ้านอีกด้วย เนื่องจากจะเกิดพลังงานในลักษณะพุ่งเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งนับเป็นพลังงานที่รุนแรงเกินพอดีค่ะ

บานประตูบ้านใหญ่


มาถึงในส่วนของประตูบ้านกันแล้ว บ้านที่ดีจะต้องมีประตูบ้านที่ใหญ่ กว้าง สูงและโปร่ง ให้ความรู้สึกหรูหราโอ่อ่า เพื่อรับพลังงานบวกเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีมากยิ่งขึ้น ประตูบ้านบานไหนที่ใช้งานประจำ ใช้งานบ่อยๆ ถือว่าเป็นประตูหลัก ถึงแม้ว่าประตูนั้นจะไม่ได้ตั้งอยู่หน้าบ้านก็ตามค่ะ ควรเลือกดีไซน์ประตูบ้านให้ใหญ่กว้างเข้าไว้ค่ะ

ภาพจาก idolza

เปิดใช้งานประตูบ้านอยู่เสมอ


เมื่อเราจัดวางละเลือกแบบประตูบ้านอย่างถูกหลักฮวงจุ้ยแล้ว เราจะต้องมีการเปิดใช้งานประตูบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากเราไม่มีการเปิดใช้งานเลย ก็จะไม่ต่างอะไรจากผนังบ้านที่ปิดทึบ คุณอาจจะติดเป้นประตูมุ้งลวดเพิ่มเข้าไปอีกชั้น เพื่อป้องกันยุงและทำให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวกไปในตัวค่ะ

พื้นที่ด้านหลังประตูบ้าน


เมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้ว พื้นที่ภายในบ้านหลังประตู ก็ควรจัดแบเปิดโล่งเช่นกัน ไม่ควรมีอะไรมาวางขวางเกะกะทางเดิน เพราะจะเป็นเหมือนกับปิดกั้นพลังงานไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับทางเดินเข้าบ้าน ลดอุบัติเหตุในยามกลางคืนในกรณีที่กลับบ้านดึกๆแล้วไม่ได้เปิดไฟภายในบ้านไว้ค่ะ

ภาพจาก Ideal Home

แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเหมือนกับเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว แล้วไฟก็จะเปิดสว่างเองแบบอัตโนมัติเมื่อเราเดินผ่าน และไฟดับลงเองถ้าหากไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว ช่วยเพิ่มคามสะดวกและประหยัดไฟไม่ต้องเปิดทิ้งเอาไว้ตลอดคืนอีกด้วยค่ะ

ประตูหลักห้ามอยู่ตรงข้ามกับประตูหลังบ้าน


เมื่อเรายืนอยู่หน้าประตูหลัก มองเขข้าไปสู่ภายใน จะต้องไม่ตรงกับประตูหลังบ้าน เนื่องจากหากมีพลังงานดีเข้ามาภายในบ้าน ก็วิ่งตรงออกไปเลยทันที ซึ่งถ้าหากที่บ้านของคุณมีประตูหน้าหลังตรงกัน ไม่สามารถทำการแก้ไขได้ แนะนำให้หาตู้มาวางขวางกั้น เพื่อลดทอนการรั่วไหลของพลังงานค่ะ

ทีนี้เราก็พอที่จะทราบกันเรื่องของฮวงจุ้ยการจัดวางประตูบ้านเพื่อรับพลังงานบวกกันแบบคร่าวๆแล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ ? หลักการคือการสร้างเส้นทางให้กับพลังงานเข้าออก และจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเท่านั้นเองค่ะ :)

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การจัดฮวงจุ้ยโคมไฟภายในบ้าน ส่องแสงนำทางให้กับชีวิต

การใช้ชีวิตปะจำวัน แสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นแสงจากธรรมชาติ หรือว่าเป็นแสงจากโคมไฟ เป็นตัวช่วยส่องสว่างให้กับยามค่ำคืนที่มืดมิด ดังนั้นการติดตั้งโคมไฟ จะต้องเลือกมุมที่เหมาะสม เพื่อที่จะกระจายความสว่างไสวได้อย่างทั่วถึงทุกมุมบ้าน

ภาพจาก aliexpress.com

โดยการจัดวางตำแหน่งโคมไฟ จะต้องเลือกตำแหน่งที่ดี ยิ่งตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วเชื่อว่า แสงไฟเป็นเหมือนกับความสว่างส่องนำทางชีวิต ดังนั้นการจัดวางโคมไฟ จะส่งผลต่อสุขภาพ หน้าที่การงน หรือความร่ำรวยให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ตำแหน่งของการติดตั้งโคมไฟสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทดังนี้

โคมไฟติดเพดาน


โคมไฟติดเพดาน เป็นโคมไฟที่ให้แสงสว่างกระจายภายในบ้านได้อย่างทั่วถึง เหมาะกับการติดตั้งไว้ภายในห้องที่จำเป็นต้องใช้แสง อย่างเช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องนั่งเล่น

โคมไฟแขวนเพดาน


โคมไฟแบบแขวนเพดาน มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงโซนยุโรป หรือทางเอเชีย ที่เจ้าของบ้านสามารถเลือกแบบได้ตามความชื่นชอบ และเน้นโชว์ความสวยงามโดดเด่น อย่างเช่น ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น เป็นต้น

ภาพจาก Fiona Andersen Photography

โคมไฟแบบฝังฝ้า


โคมไฟแบบฝังฝ้า จะเหมาะกับห้องทั่วไป โคมไฟประเภทนี้จะสวยเรียบเนียนไปกับฝ้า ให้ความสว่างภายในห้องได้อย่างทั่วถึง ทั้งภายในและภายนอกบ้าน รวมไปถึงบริเวณทางเดิน และระเบียง

โคมไฟติดฝาหนัง


โคมไฟติดฝหนัง เป็นโคมไปที่สามารถคุมแสงสว่างภายในห้องได้ดี มีดีไซน์สยงาม ให้เลือกหลากหลายแบบ สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน ส่วนใหญ่เรามักที่จะเห็นคนติดตั้งโคมไฟประเภทนี้ตามบริเวณทางเดิน ห้องรับแขก หรือห้องนอน

โคมไฟสปอร์ตไลท์


โคมไฟแบบสปอร์ตไลท์ เป็นโมไฟที่ติดเฉพาะจุด ให้ความสว่างเฉพาะจุดแบบแสงจ้ามากๆ เปิดเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เน้นสร้างจุดเด่นให้กับมุมตกแต่งบ้านบางจุด ไม่ควรเปิดเอาไว้นานๆ เพราะว่ามีผลต่อดวงตาของเรามาก

ภาพจาก Screed

โคมไฟประเภทอื่น


นอกจากโคมไฟที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังมีโคมไฟอื่นๆเช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความสว่างได้อย่างดีเยี่ยม และที่สำคญคือประหยัดไฟมากๆ

โคมไฟอีกประเภทคือ โคมไฟแบบตั้งโต๊ะ ตั้งหัวเตียง ใช้สำหรับประดับบางจุด นิยมนำมาเพิ่มความสว่างภายในห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่น เน้นใช้หลอดไฟโทนสีแบบ Warm Light ที่ช่วยในเรื่องของการถนอมสายตาได้ดีค่ะ

ไฟตั้งโต๊ะ CLASSIC BR15125-T1
โคมไฟ อ่านหนังสือ LS-AT023
ไฟตั้งโต๊ะ MODERN HD1334JS
จากเดิม 2,990 บาท
ลดเหลือ 1,390 บาท
จากเดิม 1,390 บาท
ลดเหลือ 990 บาท
จากเดิม 1,890 บาท
ลดเหลือ 1,290 บาท

ทีนี้เราก็ทราบถึงตำแหน่งของการติดตั้งโคมไฟแต่ละประเภทกันไปแล้ว พร้อมส่องสว่างภายในบ้าน มองเห็นทุกอย่างผ่านทางสายตาแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการเพิ่มความสว่างให้กับจิตใจ คือการมีสติ ที่จะเป็นเครื่องมือนำทางการใช้ชีวิตให้ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นคงค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เลือกฉากกั้นอาบน้ำอย่างไรให้ดูโมเดิร์น

ฉากกั้นห้องน้ำทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบมากๆ ไม่ได้มีแค่ผ้าม่านพลาสติดแบบธรรมดาทั่วไปอีกแล้ว เพราะการตกแต่งห้องน้ำแบบแยกโซนแห้งเปียก กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะแบ่งสัดส่วนห้องน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การทำความสะอาดก็ง่าย อีกทั้งยังสร้างความปลอดภัยให้กับการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

ภาพจาก B&Q

การเลือกฉากกั้นห้องน้ำ จะต้องเลือกดีไซน์ที่เหมาะสมกับการตกแต่งห้องน้ำอย่างสมดุล แต่โดยส่วนใหญ่แล้วห้องน้ำเราก็มักที่จะตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่าย แอบๆผสมความโมเดิร์นนิดๆเพื่อความเก๋ จะช่วยสร้างบรรยากาศความโดดเด่นให้กับห้องน้ำที่บ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ

บทความในวันนี้จะมาเผยถึงเทคนิคการเลือกฉากกั้นห้องน้ำอย่างไรให้ดูโมเดิร์น เพื่อประกอบการพิจารณาเลือกฉากกั้นห้องน้ำให้เหมาะสมกับการตกแต่งที่บ้านให้ถูกใจมากที่สุดค่ะ

พิจารณาความแตกต่าง


ก่อนอื่นเราจะต้องมาทำความรู้จักกับประเภทของฉากกั้นห้องน้ำกันก่อน วัสดุที่นำมาใช้ ลักษณะการใช้งาน เพราะฉากกั้นห้องน้ำมีให้เลือกทั้งวัสดุกระจก อะคริลิค ประตูปิดมุม ประตูบานเลื่อน ประตูบานพับ ฯลฯ มีหลายแบบมากให้เลือก

ภาพจาก victoriaplum.com

ดังนั้นคุณควรที่จะถามความต้องการของตัวคุณเองก่อนว่า ต้องการให้ห้องน้ำออกมาในรูปแบบใด เพื่อที่จะเลือกสิ่งที่ถูกใจมากที่สุด เพราะการรีโนเวทห้องน้ำใหม่ หรือสร้างห้องน้ำใหม่ เราจะมานั่งแก้ไขที่หลัง เสียทั้งเงินและเวลา ไม่คุ้มแน่นอนค่ะ

ขนาดของห้องน้ำ


ก่อนเลือกฉากกั้นห้องน้ำ เราจะต้องพิจารณาจากขนาดพื้นที่ภายในห้องน้ำก่อนที่จะติดตั้ง รูปทรงของฉากกั้นห้องน้ำ ความสะดวกสบายในการใช้งาน เดินเข้าออก เปิดปิดฉากกั้นห้องน้ำได้แบบไม่ติดขัด โดยประตูบานเลื่อนมักจะได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถปรับให้เข้าได้กับหลากหลายรูปทรง และไม่กินเนื้อที่ภายในห้องน้ำด้วย

ภาพจาก Victoria Plum

เลือกดีไซน์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม


การติดตั้งฉากกั้นห้องน้ำ จะต้องเลือกรูปแบบที่เมื่อนำมาติดตั้งแล้ว จะต้องกลมกลืนและตกแต่งห้องน้ำ หากคุณพอที่จะมีหัวทางด้านการออกแบบและดีไซน์ ก็ลองเลือกด้วยตัวเองกันดูค่ะ แต่ถ้าหากอยากตกแต่งออกมาให้สวยเหมือนหลุดออกจากนิตยสารจริงๆ ลองปรึกษาสถานิกและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ > https://www.homepro.co.th/

ฉากกั้นอาบน้ำ G2018
ฉากกั้นอาบน้ำ BD-CUR001GCR
ฉากกั้นอาบน้ำ M073T
จากเดิมราคา 5,000 บาท
ลดเหลือเพียง 4,190 บาท
จากเดิมราคา 19,900 บาท
ลดเหลือเพียง 9,990 บาท
จากเดิมราคา 8,500 บาท
ลดเหลือเพียง 6,990 บาท

เลือกดูพื้นผิวที่หลากหลาย


ฉากกั้นห้องน้ำมีให้เลือกหลากหลายพื้นผิว หากเป็นประตูกระจก คุณจะสามารถเลือกผิวให้หลายแบบ กระจกขุ่น กระจกใส โดยกระจกก็มีความขุ่นให้เลือกหลากหลายระดับ แล้วแต่ความชอบลยค่ะ หรืออาจจะผสมกระจกใส กับกระจกขุ่นเข้าด้วยกันก็ยังได้

ฉากกั้นห้องน้ำด้านเทคนิค


แน่นอนว่าฉากกั้นห้องน้ำ ย่อมอยู่กับความเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นวัสดุในการออกแบบจะเน้นในเรื่องการกันความชื้น หรือบางครั้งการอาบน้ำ จะมีหยดน้ำติดบนกระจกจนเกิดคราบ แต่ฉากกั้นในปัจจุบัน มีการพัฒนาให้สามารถทำความสะอาดตัวมันเองได้ด้วย ไม่ต้องเหนื่อยนั่งขัดอีกต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

โซฟาหนังแท้ VS โซฟาหนังเทียม

โซฟาหนัง เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ยิ่งในยุคปัจจุบันที่สไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์กำลังมาแรงตอนนี้ โซฟาหนังยิ่งเป็นเหมือนกับพระเอกให้กับการตกแต่งบ้านให้ดูสวย หรูหรา และมีคุณค่า คู่ควรแก่การนำมาใช้ตกแต่งภายในได้ออกมาดูสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ภาพจาก potterybarn.com

นอกจากความสวยงามแล้วโซฟาหนัง เป็นอะไรที่ดูแลรักษาได้ง่ายมาก แต่วัสดุที่นำมาใช้ทำโซฟาหนัง มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน มีทั้งหนังแท้ที่ทำจากหนังสัตว์จริงๆ กับหนังเทียมที่สังเคราะห์ขึ้นมาใช้ทดแทน ซึ่งหากมองเผินๆก็ดูคล้ายคลึงกัน บางทีเราก็แยกไม่ออกกันใช่ไหมล่ะ ?

โซฟาหนังแท้


โซฟาหนังแท้ จะมีผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี นั่งแล้วไม่รู้สึกร้อน นิยมใช้หนังวัวมาเป็นวัสดุในการผลิต ซึ่งแน่นอนว่าการใช้หนังแท้ ย่อมมีราคาที่สูงมากกว่าแน่นอน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 10 ปีเลยทีเดียว โดยหนังแท้จะแบ่งประเภทออกเป็น

หนังแท้ผิวเรียบ เป็นหนังที่นิยมใช้กันทั่วไป ผ่านกรรมวิธีเคลือบด้วยน้ำยาหรือขี้ผึ้ง มีให้เลือกทั้งเคลือบเงาและเคลือบแบบด้าน ตามความชอบ

หนังกลับ เป็นหนังที่เลือกใช้ส่วนด้านในออกมาโชว์ มีผิวสัมผัสสากไม่เรียบ ไม่เงา เป็นอีกความสวยงามโดดเด่นที่หลายคนชื่นชอบค่ะ

โซฟา CONTOUR ROSA_3 หนังแท้ เชสนัท โซฟา CONTOUR SANDY_3 หนังแท้ น้ำตาล โซฟา CONTOUR EDGE_3 หนังแท้ ดำ
32,900 บาท 39,900 บาท 26,500 บาท

หนังฟอก เป็นหนังที่ผ่านกรรมวิธีการฟอก เพื่อให้เกิด texture ผิวสัมผัสจะมีความนิ่ม และมีการย้อมสีให้ดูสวยงามมากขึ้นอีกด้วย

หนังขนวัว เป็นหนังที่มีลวดลายสวยงาม นิยมใช้หนังของลูกวัว เพราะมีขนที่นุ่ม ขนาดผืนเล็ก และมีราคาที่แพงมากกว่าผนังอื่นๆ

โซฟาหนังเทียม


โซฟาหนังเทียม ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์ประเภทพลาสติก เย็นติดต่อกันเป็นผืนใหญ่ได้โดยไม่มีรอยต่อ เพราะผลิตเป็นม้วน สามารถเย็บและทำความสะอาดได้ง่ายมากกว่าหนังแท้ และดูเนี๊ยบกว่า แต่หากเทียบเรื่องความทนทาน หนังเทียมสู้ไม่ได้แน่นอน

โซฟาหนังเทียมจะระบายอากาศได้ไม่ดี เวลานั่งแล้วจะรู้สึกร้อน แต่ด้วยราคาที่ค่อน้างถูกมากกว่า จึงเป็นที่นิยมค่อนข้างสูง อีกทั้งมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี (ครึ่งๆของหนังเทียบเลยอ่ะ)

โซฟา ALLUSION จีฟ L-SHAPE ดำ
โซฟา ALLUSION นูโว ครีม
โซฟา ALLUSION เจนนี่ น้ำตาล
จากเดิมราคา 6,900 บาท
ลดเหลือเพียง 6,590 บาท
จากเดิมราคา 9,900 บาท
ลดเหลือเพียง 9,400 บาท
จากเดิมราคา 8,900 บาท
ลดเหลือเพียง 8,490 บาท

พิสูจน์โซฟาหนังแท้ VS หนังเทียม


การดูว่าโซฟาตัวนี้เป็นหนังแท้ หรือ หนังเทียม ในกรณีที่เราไม่สามารถพลิกผืนหนังได้ ทำได้โดยใช้มือของเรานี่แหละ ถูไปที่ผืนหนัง เพื่อให้มีกลิ่นชัดเจนมากยิ่งขึ้น หนังแท้จะมีกลิ่นหนังสัตว์เฉพาะตัว ส่วนหนังเทียมจะเป็นกลิ่นเหมือนกับพลาสติกหรือยาง

บทความเกี่ยวข้อง


วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

งบน้อย แต่อยากตกแต่งบ้านสวยดูแพง ไม่ยากอย่างที่คิด !

ใครๆก็ชอบบ้านที่ลุคดูดีมีระดับใช่ไหมล่ะ ? แต่งบประมาณในกระเป๋าแลดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ (ฮ่าๆ) แต่ก็อย่างพึ่งสิ้นหวังค่ะ เพราะว่าการตกแต่งบ้าน ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินเยอะๆ หรือซื้อของราคาแพงๆเสมอไป เพราะการตกแต่งบ้าน มันอยู่ที่สไตล์ และเคล็ดลับในการเลือกของตกแต่งต่างหากล่ะ !

วันนี้เลยมีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ สำหรับคนงบระมาณน้อยแต่อยากตกแต่งบ้านให้ดูสวยหรู ดูแพงมากขึ้น ในราคาน่ารักๆ ที่คุณเห็นแล้วจะต้องยิ้มพริมใจแน่นอนค่ะ

ภาพจาก Best Interior Designers

ทำให้ของเกะกะหายไป


สิ่งแรกเลยที่เราจะต้องทำถ้าหากอยากจะตกแต่งบ้านให้ดูสวยและดูแพงคือ “โยนของเกะกะออกไปให้หมด” เพราะส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะชอบวางข้าวของเต็มบ้านไปหมด จนแทบจะไม่เหลือที่ให้นั่งให้เดินกันเลย (อันนี้ก็เวอร์ ฮ่าๆ)

ภาพจาก Woman's Day

อะไรที่เก่า อะไรที่ไม่ใช้แล้ว ก็เอาไปชั่งกิโลขาย หรือโยนทิ้งไปเลยได้ค่ะ ไม่ต้องมีความรู้สึกเสียดาย เพราะของพวกนี้เก็บเอาไว้ก็เกะกะเปล่าๆ สู้เอาไปขายต่อได้เงินมาต่อยอดการตกแต่งบ้านยังจะดูคุ้มค่ามากกว่า ถ้าหากคุณทำได้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการตกแต่งบ้านแล้วล่ะค่ะ

กำจัดคราบสกปรก


เมื่อเราจัดเก็บของใช้ต่างๆออกไปหมดแล้ว จะเห็นเลยว่าบ้านของเราโล่งมาก สบายตา และดูกว้างขวางมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันดับต่อไปคือการทำความสะอาดบ้าน ทุกซอกทุกมุม ขัดคราบสกปรกต่างๆตามกำแพง เฟอร์นิเจอร์ออกให้หมด

ภาพจาก expresswriters.com

โดยเฉพาะตามพื้นและร่องยาแนว จะมีคราบดำๆซ่อนอยู่ทำให้บ้านของเราดูเก่าเกินเวลา หากเป็นไปได้แนะนำให้ยาแนวกระเบื้องใหม่ไปเลยจะดีที่สุดค่ะ เป็นหนทางที่ทำให้บ้านของเรากลับมาดูสวยเหมือนใหม่ได้แบบง่ายๆและราคาไม่แพง

จัดแจงความสว่าง


แน่นอนว่าบ้านที่มีความสว่างทั่วถึง มีชัยไปกว่าครึ่ง หากที่บ้านของคุณมีหน้าต่าง แต่ว่าจัดวางตู้บังไปหมด แนะนำให้เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ออก เพื่อเปิดพื้นที่กว้างและรับแสงจากภานอเข้าสู่ภายใน ช่วยทำให้บ้านของเราดูปลอดโปร่งมากที่สุดค่ะ

ภาพจาก Pinterest

แต่ถ้าหากบ้านของคุณมีหน้าต่างไม่มากนัก แสงอาจจะน้อยมากกว่าปกติ ลองเพิ่มเติมแสงสว่างด้วยการติดตั้งโคมไฟ หลอดไฟตามมุมอับภายในห้อง ไฟที่สามารถปรับแสง (Dimmers) ไว้ด้านบน ทริคเล็กๆน้อยๆให้บ้านดูหรูสำหรับไฟ คือ การใช้ไฟโทนร้อน (warm) เพราะหากใช้ไฟโทนเย็น (cool)

ทาสีใหม่ไฉไลกว่าเดิม


อีกวิธีง่ายๆในการอัพเกรดบ้านแบบง่ายมากที่สุด แถมเปลี่ยนบรรยากาศบ้านได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ คือการทาสีบ้านใหม่ เน้นโทนสีอ่อนแบบธรรมชติ โทนสีเอิร์ธ สีขาว สีครีม เป็นสีหลักในการตกแต่ง ซึ่งเป็นสีที่เรียกได้ว่าเข้ากันได้ดีกับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน

หรือหากคุณมีงบประมาณเพิ่มขึ้นมาอีกนิด อาจจะเลือกวอลเปเปอร์ติดผนังลวดลายสวยๆ มาตกแต่งกำแพงบ้านแทนการทาสีบ้านก็ได้ค่ะ

ภาพจาก Home Decoration and Contemporary Ideas 2017

ยกระดับข้าวของเครื่องใช้


ถ้าหากยังไม่มีเงินมากพอที่จะเลือกเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆมาใช้ ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นการยกระดับเฟอร์นิเจอร์ให้ดูหรูดูแพงมากขึ้นด้วยวิธีการอื่นๆ อย่างเช่น เปลี่ยนผ้าม่านใหม่ หาผ้าคลุมโต๊ะลวดลายสวยๆมาปูปิดบังความเก่าของเฟอร์นิเจอร์ เลือกพรมสวยๆสักผืนมาปูพื้น เพียงเท่านี้บ้านของเราก็ดูใหม่ขึ้นทันตาแล้วล่ะ

ภาพจาก Kasasa Blog

แต่งให้แพงดิรอไร


ถ้าหากทำทุกข้อแล้วยังรู้สึกแบบ “ก็ยังงั้นๆอ่ะ” อยู่ล่ะก็ ลองเพิ่มเติมแต่งอีกนิสสสส ด้วยการใช้กรอบรูป เรียบเรียงเรื่องราว หรือภาพถ่ายที่ชื่นชอบ ใส่กรอบและจัดเรียงแบบเก๋ๆ ยกระดับบ้านให้ดูสวยและมีสไตล์มากยิ่งขึ้น อย่างเห็นได้ชัด โดยเทคนิคการจัดกรอบรูปภาพบนกำแพง สามารถติดตามอ่านได้ที่ > จัดเลเอาท์กรอบรูปสวยแบบติ๊สๆ ใช้ชีวิตไม่ติดกรอบ

ภาพจาก Mountary

วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

โต๊ะกินข้าวทรงกลม หรือ ทรงเหลี่ยม แบบไหนดีกว่ากัน?

โต๊ะกินข้าวเป็นอีกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความสำคัญอย่างมาก ถ้าหากอยากที่จะตกแต่งห้องรับประทานอาหารให้มีความสวยงามและโดดเด่น จึงทำให้หลายคนเริ่มคิดหนักว่าจะเลือกโต๊ะกินข้าวแบบไหนมาใช้งานดีนะ ? เพราะโต๊ะกินข้าวตามท้องตลาด ก็มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์และวัสดุ

ภาพจาก WoodenStreet

โต๊ะกินข้าวสวยๆก็มีเยอะแยะเต็มไปหมด อันนี้ก็ถูกใจ อันนั้นก็ใช่เลย ตัดสินใจไม่ได้สักกะที วันนี้เลยเคล็ดลับในการเลือกโต๊ะกินข้าวอย่างเหมาะสมกับที่บ้านของเรามาฝากกัน โดยจะอิงจากโต๊ะกินข้าว 2 รูปแบบหลักๆได้แก่ โต๊ะกินข้าวทรงกลม และ โต๊ะกินข้าวทรงสี่เหลี่ยม

ขนาดพื้นที่ภายในห้องรับประทานอาหาร


ปัจจัยแรกที่จะต้องนำมาวิเคราะห์ประกอบการพิจารณาว่าจะเลือกโต๊ะกินข้าวรูปแบบไหนดี คือลักษณะของขนาดพื้นที่ในห้องรับประทานอาหาร ว่ากว้างหรือแคบ และต้องการที่จะวางโต๊ะกินข้าวเอาไว้ที่มุมไหนของห้อง

ภาพจาก ashleyhomesohio.com

ถ้าหากต้องการเลือกโต๊ะกินข้าวทรงกลม พื้นที่ภายในห้องรับประทานอาหารจะต้องมีความกว้างสักหน่อย คุณจะต้องแน่ใจว่าบริเวณห้องมีมากเพียงพอที่จะจัดวางทั้งโต๊ะและเก้าอี้ โดยเวลานั่งรับประทานอาหารได้แบบสบายๆ ขยับเนื้อตัวได้อย่างสะดวก

หากคุณเลือกโต๊ะรูปทรงสี่เหลี่ยมก็จะง่ายกว่าหน่อย เพราะโต๊ะกินข้าวรูปทรงสี่เหลี่ยม จะสามารถดันไปให้ชิดผนังได้ ในขณะที่โต๊ะทรงกลมทำไม่ได้ ดังนั้นหากที่ห้องรับประทานอาหารของคุณมีพื้นที่จำกัด แนะนำให้เลือกโต๊ะกินข้าวทรงสี่เหลี่ยมมาใช้งานจะเหมาะมากกว่าค่ะ

โต๊ะกินข้าวกับประโยชน์ใช้สอย


ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาประกอบคือเรื่องของประโยชน์ใช้สอยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ อาทิเช่น คุณเป็นคนที่ชื่นชอบงานปาร์ตี้สังสรรค์ พบปะผู้คนอยู่บ่อยครั้ง โต๊ะกินข้าวแบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะสามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่า โต๊ะกินข้าวทรงกลม เพราะโต๊ะทรงเหลี่ยมจะสามารถนั่งเรียงเป็นแนวยาวไม่กินพื้นที่

ภาพจาก Pinterest

ถ้าหากเป็นโต๊ะทรงกลม ยิ่งสมาชิกเยอะ เส้นผ่านศูนย์กลางของโต๊ะกินข้าว ก็จะยิ่งกว้างขึ้น และจะยิ่งเปลืองพื้นที่มากกว่าเดิม อีกทั้งยังทำให้สมาชิกทุกคนนั่งห่างไกลกันอีกด้วยค่ะ

โต๊ะกินข้าวกับจำนวนสมาชิก


นอกจากเรื่องของประโยชน์ใช้สอยแล้ว เรื่องของจำนวนเก้าอี้ที่สามารถรองรับสมาชิกได้อย่างเพียงพอหรือไม่ โดยอิงจากจำนวนสมาชิกภายในครอบครัว ถ้าหากที่บ้านอยู่กันแค่ 2-3 คน โต๊ะกินข้าวแบบกลมเล็กๆ กับเก้าอี้นั่งสัก 2-4 ตัวก็เพียงพอ

ภาพจาก Pinterest

แต่ถ้าหากที่บ้านอยู่กันเยอะ 4-5 คนหรือมากกว่านั้น แนะนำให้เลือกเป็นโต๊ะกินข้าวแบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าน่าจะเหมาะสมมากที่สุด เพราะสามารถรองรับสมาชิกได้มากกว่า อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่มากขึ้นอีกด้วย

ลักษณะขาโต๊ะกินข้าว


คุณอาจจะคิดว่าขาโต๊ะกินข้าว อาจจะไม่สำคัญแต่ที่จริงแล้ว เป็นอีกจุดที่จะต้องนำมาพิจารณาประกอบ เพราะถ้าหากขาโต๊ะกินข้าวมีลักษณะเทอะทะ เกะกะ คุณอาจจะสะดุดล้ม แล้วทำให้ห้องรับประทานอาหารแลดูแคบมากกว่าที่ควรจะเป็น


ลักษณะขาโต๊ะกินข้าวที่ดี ควรที่จะเลือกแบบที่เป็นแท่งเหล็กหนาเพียงแท่งเดียวตรงกลางสำหรับโต๊ะทรงกลม หรือหากเป็นทรงสี่เหลี่ยมควรเลือกเป็นสี่ขาตามมุมโต๊ะ ขนาดต้องสมดุลกับขนาดของตัวโต๊ะกินข้าวถึงจะเหมาะสมค่ะ

เปอร์เซ็นต์การเกิดอุบัติเหตุ


ถ้าหากที่บ้านของคุณมีเด็กน้อยวัยซน ชอบวิ่งเล่นไปมาในบ้าน แน่นอนว่าโต๊ะกินข้าวทรงสี่เหลี่ยม ค่อนข้างเป็นอัตรายอย่างมากเลยทีเดียว เพราะหัวมุมโต๊ะถ้าหากเด็กน้อยล้มลงกระแทก อาจจะบาดเจ็บได้เลย (แค่เราเดินชนยังเจ็บอ่ะ) ดังนั้นควรหาโฟมยางกันกระแทกมาติดตามมุม เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนค่ะ

ภาพจาก Pinterest

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เลือกผ้าม่านแบบไหนเหมาะกับบ้านเรามากที่สุด

ผ้าม่าน นอกจากจะช่วยป้องกันแสงแดด ลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นอีกไอเทมที่หลายคนเลือกใช้ตกแต่งบ้านให้ดูสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แต่การเลือกผ้าม่านมาใช้งานที่บ้าน นอกจากจะเลือกเพียงเพราะความสวยงามแล้ว เรื่องของคุณสมบัติ และประเภทของผ้าม่าน ก็จะต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย

ภาพจาก Country Living Magazine

การเลือกผ้าม่านอย่างเหมาะสม


ผ้าม่าน มีให้เลือกหลากหลายประเภทและรูปแบบ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละประเภท ก็ม่คุณสมบัติที่แตกต่าง ความเหมาะสมในการใช้งานก็ย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน อาทิเช่น ผ้าม่านบางชนิดเหมาะกับห้องน้ำ บางชนิดเหมาะกับห้องนอน

ภาพจาก Pinterest

ดังนั้นบทความในวันนี้ จะมาดูกันว่าเราจะเลือกผ้าม่านแบบไหน ประเภทใด มาใช้งานที่บ้านอย่างเหมาะสมกับการใช้งานแต่ละห้อง สร้างสรรค์ดีไซน์การตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ ด้วยการเลือกผ้าม่านดีไซน์สวยไปพร้อมๆกันเลย

ผ้าม่านในห้องครัว


ห้องครัว เป็นห้องที่อยู่กับไฟ ควัน และศษอาหาร คราบสิ่งสกปรกมากมายเลอะเทอะไปหมด ซึ่งแน่นอนว่าผ้าม่านที่เหมาะจะเลือกมาช้าน จะต้องเป็นแบบที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งไม่อมกลิ่นควัน และสามารถทนต่อความร้อนได้ดี อาทิเช่น ม่านม้วนซันสกรีน

ผ้าม่านห้องน้ำ


ห้องน้ำ เป็นห้องที่เต็มไปด้วยความชื้นแฉะอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าการเลือกผ้าม่าน จะต้องเลือกผ้าม่านที่มีคุณสมบัติป้องกันความชื้น ไม่เป็นเชื้อราง่าย และจะต้องให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว อย่างเช่น มู่ลี่ไม้สังเคราะห์ ที่สามารถดูแลได้ง่ายและทนน้ำ หรือ มู่ลี่แบบโฟมวูด ที่ง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาดคราบ อีกทั้งไม่ดูดซับน้ำเช่นกันค่ะ

ผ้าม่านในห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก


ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก เป็นห้องที่เหมือนกับศูนย์กลางของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ช่วงวันหยุดแน่นอนว่าทุกคนจะต้องรวมตัวกันเพื่อดูทีวี ดูหนัง เล่นเกมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา การเลือกผ้าม่านที่จะใช้ตกแต่งห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก จึงต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ …


  • ผ้าม่านจะต้องกรองแสงได้ และสามารถป้องกันรังสี UV ได้ด้วย
  • ติดตั้งผ้าม่านแบบ 2 ชั้น ที่มีทั้งม่านกันแสงและม่านโปร่งแสง
  • ผ้าม่านจะต้องมีดีไซน์สวยงาม สอดรับกับการตกแต่งภายในได้อย่างลงตัว
  • ลวดลายผ้าม่านควรเลือกเป็นลวดลายเล็กๆ จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น


ผ้าม่านในห้องทำงาน


ห้องทำงานเป็นห้องที่เราต้องการใช้สมาธิสูงมาก และมีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ แต่ความสว่างจะต้องเข้ามาอย่างทั่วถึงภายในห้อง และเพียงพอต่อการถนอมสายตา การเลือกผ้ม่านที่จะใช้ตกแต่งห้องทำงานจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้


  • ผ้าม่านจะต้องควบคุมแสงได้อย่างง่ายดาย เช่น ม่านม้วนแสงทึบ
  • ผ้าม่านสามารถควบคุมปริมาณแสงที่ส่องเข้ามาในห้อง เช่น ม่านมู่ลี่แบบปรับองศา
  • ผ้าม่านเน้นสีพื้นๆเรียบๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายสายตาขณะนั่งทำงาน


ผ้าม่านในห้องนอน


ห้องนอน เป็นห้องที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวันของเรา อย่างต่ำวันละ 6-8 ชั่วโมง และเพื่อสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายให้กับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ จะต้องเลือกผ้าม่านที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ค่ะ


  • ผ้าม่านจะต้องกันแสงได้ดี กัน UV ได้ยิ่งเลิศ
  • ผ้าม่านแบบแบล็คเอาท์ (Blackout) ซึ่งเป็นผ้าแบบทึบแสง กันแดดได้ 100%
  • ผ้าม่านกันแสงดิมเอาท์ (Dim-out) ที่มีคุณสมบัติการกันแสงและความร้อนได้ดี
  • ผ้าม่านแบบ 2 ชั้น ที่มีทั้งม่านกันแสงและม่านโปร่งแสง

วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตกแต่งบ้านสะท้อนไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย บ่งบอกความเป็นตัวคุณ

การตกแต่งบ้านให้ดูดีมากขึ้น จะต้องคำนึงในเรื่องของการจัดการพื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงสไตล์ที่เหมาะสม ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์ที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวของคุณเองได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ภาพจาก Interior Design

ซึ่งในปัจจุบัน ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องของการตกแต่งภายในได้มากยิ่งขึ้น วันนี้จึงขอหยิบยกตัวอย่างการตกแต่งบ้านหลากสไตล์การตกแต่งสวยๆมาฝากกัน เผื่อใครกำลังมองหาดีไซน์การตกแต่งบ้านสวยๆ จะได้ลองหยิบเอาไอเดียไปใช้กับที่บ้านของตัวเองได้เลย !

ตกแต่งบ้านสไตล์คันทรี่


การตกแต่งบ้านสไตล์คันทรี่ จะเน้นอารมณ์ความเรียบง่ายและความเป็นบ้านชนบทให้ออกมาในรูปแบบของการตกแต่งภายในที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติอันอบอุ่น โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ จะเน้นลวดลายอ่อนช้อย อาจจะดูเก่าๆโบราณๆนิดหน่อย สร้างบรรยากาศให้ดูเหมือนอยู่ชนบทได้ดีเลยทีเดียว

ภาพจาก Impressive Interior Design

นอกจากนี้ยังยังมีการประดับประดาไปด้วยแจกันดอกไม้ หรือกระถางต้นไม้ตามมุมห้อง ยิ่งทำให้คุณรู้สึกว่าอาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาจิและชนบทได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ


การตกแต่งบ้านด้วยสไตล์วินเทจ เป็นการนำของใช้และเฟอร์นิเจอร์เก่าต่างๆ มาเล่าเรื่องราวใหม่ เพิ่มความพิเศษให้กับการตกแต่งบ้าน ให้ดูมีที่มาที่ไป เชื่อมต่อทุกยุคสมัยเข้าร่วมกันได้อย่างสวยงามและลงตัว หากใครชื่นชอบการสะสมของเก่า การตกแต่งบ้านสไตล์สินเทจ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุดเลยค่ะ

ภาพจาก Ghar360

ตกแต่งบ้านใกล้ชิดธรรมชาติ


เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าผู้คนเริ่มโหยหาความเป็นธรรมชาติกันมากกว่าเมื่อก่อน ซึ่งการใช้ชีวิตใจกลางเมือง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกไปพบเจอกับธรรมชาติใกล้บ้าน

ภาพจาก homedit.com

ดังนั้นการตกแต่งบ้านแบบใกล้ชิดธรรมชาติ จึงเป็นอีกไอเดียที่ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากในการตกแต่งภายใน เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติสีเขียวให้กับการใช้ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เสริมให้บ้านของคุณมีบรรยากาศผ่อนคลายและเหมาะแก่การพักผ่อน

ตกแต่งบ้านอบอุ่น นุ่มนวล


หลายคนชื่นชอบตกแต่งบ้านแบบเรียบง่าย บรรยากาศนุ่มๆ สบายๆ และเงียบสงบ เติมเต็มความผ่อนคลายให้กับการใช้ชีวิตด้วยการเลือกโทนสีอ่อนๆสบายตา ผสมผสานกับผิวสัมผัสที่นุ่มนวลจากหารเลือกพรมขนสัตว์นุ่มฟู หมอนอิง ผ้าม่าน ฯลฯ

ภาพจาก YouTube

เพิ่มเติมความมีชีวิตชีวา ด้วยการประดับแจกันดอกไม้ คืนความสดชื่นให้กับการตกแต่งบ้าน โดยคุณอาจจะเพิ่มความสว่างไสวด้วยการติดตั้งโคมไฟแสงสี Warm Light ให้ความสว่างแบบอบอุ่นสลัวๆ ยิ่งชวนทำให้บรรยากาศภายในบ้านแลดูโรแมนติกด้วยค่ะ

ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค


หากใครชื่นชอบการตกแต่งบ้านให้ดูหรูหรา เป็นทางการ สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากๆ เน้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบเวอร์วังอลังกาล โออ่า และทันสมัย โซฟากำมะหยี่ พรมขนฟูๆนุ่มนิ่ม โคมไฟแชนเดอเลีย เฟอร์นิเจอร์แกะสลัก เครื่องเงินประดับประดา ที่หากใครมาเยี่ยมที่บ้านจะต้องว๊าวววว สุดๆแน่นอน

ภาพจาก House Decor Picture

วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตกแต่งบ้านน้อยโปร่งสบายด้วยบล็อคแก้ว

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ยิ่งเราเพิ่มกำแพงบ้านมากขึ้นเท่าไหร่ บรรยากาศภายในบ้านจะยิ่งดูแคบและน่าอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น แล้วมันจะมีเทคนิคอะไร ที่จะมาช่วยปรับบ้านขนาดเล็ก ให้ดูกว้างขวางและจัดสัดส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดบ้างล่ะ ?

ภาพจาก The November Design

คำตอบคือ มีแน่นอน ด้วยการเลือกผสมผสานการตกแต่งบ้านกับบล็อคแก้ว ที่แต่ก่อนรามักจะใช้เป็นช่องรับแสงภายในห้องน้ำกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันเรื่องความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งบ้าน ได้ก้าวข้ามกฎเกณฑ์และกรอบความคิดเดิมๆ โดยเลือกใช้บล็อคแก้ว ให้เป็นเหมือนกับกำแพงกั้นห้อง ที่สำคัญคือ เราไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิดเดียว

บล็อคแก้วตกแต่งบ้านขนาดเล็ก


บล็อคแก้วนี่แหละ ตัวช่วยชั้นยอดในการตกแต่งภายในบ้านขนาดเล็กให้ดูกว้างขวางและโปร่งสบายได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว วันนี้เลยแอบหยิบยกตัวอย่างการตกแต่งบ้านผสมผสานกับบล็อคแก้วจากประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่าราคาที่ดินแพงสูงลิ่ว ที่อยู่อาศัยจึงมีขนาดเล็กและต้องประหยัดอย่างมากมาฝากกันค่ะ

ภาพจาก The November Design

เทคนิค Open Space


การตกแต่งบ้านขนาดเล็กให้ดูกว้างขวางและโล่งมากขึ้น แนะนำให้ตกแต่งโดยใช้เทคนิค Open Space เชื่อมต่อทุกมุมห้องเข้าด้วยกันแบบไร้กำแพงขวางกั้น (มีกำแพงน้อยที่สุด) และเลือกประตูหน้าต่างเป็นรูปแบบสไลด์ เพื่อประหยัดพื้นที่ในการสวิงเปิดปิด

ผสมผสานกับการเลือกบล็อคแก้วมาใช้เป็นเหมือนกับกำแพงจัดโซนพื้นที่ ซึ่งแม้ว่าจะมีความทึบอยู่บ้าง แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าไม่ถูดตัดขาดออกจากพื้นที่อื่น แถมยังทำให้การตกแต่งภายในบ้านของเราแลดูคลาสสิคอีกด้วย

บล็อคแก้วสุดคลาสสิค


หลายคนอาจจะมองว่าบล็อคแก้วเป็นอะไรที่ดูเชย ดูเก่าแก่ เหมือนกับห้องน้ำในตึกอาคารเก่าดูไม่ทันสมัย ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งภายใน ซึ่งอันที่จริงแล้ว มันอยู่ที่การเลือกของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงโทนสีและสไตล์ที่นำมาใช้ จะยิ่งช่วยเสริมให้การตกแต่งบ้านดูสวยมีเสน่ห์มากขึ้นอย่างแน่นอน

ภาพจาก The November Design

ตกแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style)


การตกแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิก หรือสไตล์สแกนดิเนเวีย ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศโซนหนาวเกือบตลอดทั้งปี ที่จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น ภายใต้ความเรียบง่าย เน้นความเป็นธรรมชาติของการเลือกวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง ที่จะช่วยทำให้บ้านของเราดูผ่อนคลายน่าพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การผสมผสานสไตล์นอร์ดิก และการใช้บล็อคแก้วเป็นเหมือนกับกำแพงขวางกั้น จึงเป็นอะไรที่ดูสวยและลงตัวสุดๆ ถ้าหากคุณไม่เชื่อล่ะก็ ลองมองภาพตัวอย่างการตกแต่งบ้านที่นำมาให้ชมกันด้านล่างนี้สิ …

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design

ภาพจาก The November Design