เลือกกระจกนิรภัยตกแต่งบ้านอย่างไร ถูกใจ ใช่เลย !
องค์ประกอบของการสร้างบ้าน มีหลากหลายและรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรา จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย และตรงตามความต้องการของเจ้าของบ้านและสมาชิกคนอื่นมากที่สุด
ส่วนอีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย คือเรื่องของความสวยงาม ดีไซน์ และสไตล์การออกแบบบ้าน หรือแม้แต่การเลือกใช้วัสดุที่มีความปลอดภัย แข็งแรงทนทาน ใช้งานคู่บ้านได้อย่างยาวนาน
กระจกนิรภัย เป็นอีกวัสดุที่สถาปนิกนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นสร้างบรรยากาศความหรูหราและปลอดโปร่ง รับแสงจากธรรมชาติ สาดส่องเข้าสู่ภายในได้อย่างทั่วถึง
เป็นเหมือนกับการเปิดรับธรรมชาติผสานเข้ากับบรรยากาศภายในบ้าน ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจ แต่การจะเลือกกระจกนิรภัยมาตกแต่งภายในบ้าน จะต้องคำนึงถึงการป้องกันเรื่องของความร้อนจากแสงแดด ที่ส่องเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น การเลือกใช้กระจกนิรภัยแบบป้องกัน UV ที่สามารถลดความเจิดจ้าของแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากเราเลือกกระจกมาใช้งานไม่เหมาะสมแล้วล่ะก็ อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นกับสมาชิกภายในบ้านได้ ในปัจจุบันจึงมีกระจกนิรภัยให้เลือกใช้งานกันค่อนข้างเยอะ ซึ่งแต่ละชนิด ก็มีคุณสมชัติเก่นที่แตกต่าง ตามลักษณะการใช้งาน
กระจกนิรภัยจะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้พักอาศัย ต้องมีความแข็งแรงไม่แตกง่าย คือถึงแม้ว่ากระจกจะแตก แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ดังนั้นหากเราทราบรายละเอียดเกี่ยวกับกระจกนิรภัยเอาไว้บ้าง ก็ไม่เสียหายใช่ไหมล่ะ ? อย่างน้อยเราจะได้ตัดสินใจเลือกกระจกนิรภัยมาใช้งานที่บ้านได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
เรามาทำความรู้จักกับประเภทของกระจกนิรภัยกันก่อนเลย ว่ามีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภท เหมาะกับการใช้งานแบบไหน มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง มาเริ่มจากกระจกนิรภัยประเภทแรกกันเลย !
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ เป็นกระจกนิรภัยที่นิยมใช้กันค่อนข้างมาก กระบวนการผลิตเริ่มจากการนำกระจกธรรมดาๆนี่แหละ มาอบด้วยความร้อนสูงประมาณ 650-700 องศาเซลเซียส แล้วทำให้เย็นลงในทันทีด้วยการเป่าลม
ทำให้ผิวกระจกด้านนอกแข็งเร็วกว่ากระจกด้านใน จึงเกิดความแตกต่างกันของอุณภูมิระหว่างผิวนอกกับส่วนกลางเนื้อในของกระจก ก่อให้เกิดชั้นของแรงอัดที่ผิวนอกของแผ่นกระจกทั้งสองด้าน
แต่กระจกนิรภัยเทมเปอร์ ไม่สามารถนำมาเจาะ เจียร บากหรือแปรสภาพได้อีก เพราะกระจกจะแตก บริเวณสันกระจกหรือขอบกระจก เป็นส่วนที่บอบบางกว่าบริเวณผิวกระจก อาจจะแตกง่ายเมื่อเกิดการกระแทก ระหว่างขนส่งหรือการสั่นสะเทือนของวงการ
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคารสูง หรือพื้นที่ปิดกั้นระหว่างภายในและภายนอกอาคารที่อยู่สูงจากพื้นมากๆ เพราะหากกระจกแตกและหลุดร่วงลงมา ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้คน
กระจกนิรภัยลามิเนต เป็นกระจกนิรภัยอีกชนิดที่นิยมใช้ ทั้งยังปลอดภัยกว่ากระจกนิรภัยเทมเปอร์ จริงๆแล้วชื่อลามิเนต เป็นเพียงชื่อของกระบวนการการทำกระจกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น
โดยกระจกนิรภัยลามิเนต เกิดจากการนำกระจกเทมเปอร์สองแผ่นมาประกบโดยมีแผ่นฟิล์มกั้นกลาง จากนั้นเข้าสู่กระบวนการรีดด้วย Roller เพื่อทำให้แผ่นฟิล์มยึดติดกับกระจก
จากนั้นนำไปเข้าอบต่อในเตาที่มีการควบคุมอุณภูมิและความดันเพื่อไล่อากาศออกให้หมด เมื่อเสร็จสิ้นทุกกระบวนการแล้ว จะได้กระจกเทมลามิเนต หรือเรียกสั้นๆว่า กระจกนิรภัยลามิเนตนั้นเอง
กระจกนิรภัยลามิเนต จะเหมาะกับการนำมาใช้กระจกหน้าต่างอาคร และผนังภายใน ประตูทางเข้าอาคาร หรือประตูภายในอาคาร กระจกที่ติดตั้งอยู่เหนือศรีษะหรือผนังลาดเอียง เช่นหลังคา ผนังห้องประชุมเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก หรือสถานที่ต้องการรักษาความปลอดภัยเช่น ธนาคาร
ฟิล์มที่อยู่ตรงส่วนกลางของกระจกนิรภัยลามิเนต มีคุณสมบัติดูดความชื้น ทำให้ถ้าหากใช้กระจกนี้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง จะทำให้การยึดเกาะระหว่างกระจกและฟิล์มไม่ดี เกิดการแยกตัวได้
ส่วนอีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย คือเรื่องของความสวยงาม ดีไซน์ และสไตล์การออกแบบบ้าน หรือแม้แต่การเลือกใช้วัสดุที่มีความปลอดภัย แข็งแรงทนทาน ใช้งานคู่บ้านได้อย่างยาวนาน
ภาพจาก Plymouth Glass
กระจกนิรภัยตกแต่งบ้าน
กระจกนิรภัย เป็นอีกวัสดุที่สถาปนิกนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นสร้างบรรยากาศความหรูหราและปลอดโปร่ง รับแสงจากธรรมชาติ สาดส่องเข้าสู่ภายในได้อย่างทั่วถึง
เป็นเหมือนกับการเปิดรับธรรมชาติผสานเข้ากับบรรยากาศภายในบ้าน ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจ แต่การจะเลือกกระจกนิรภัยมาตกแต่งภายในบ้าน จะต้องคำนึงถึงการป้องกันเรื่องของความร้อนจากแสงแดด ที่ส่องเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น การเลือกใช้กระจกนิรภัยแบบป้องกัน UV ที่สามารถลดความเจิดจ้าของแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพจาก Z Glass
กระจกนิรภัยจะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้พักอาศัย ต้องมีความแข็งแรงไม่แตกง่าย คือถึงแม้ว่ากระจกจะแตก แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ดังนั้นหากเราทราบรายละเอียดเกี่ยวกับกระจกนิรภัยเอาไว้บ้าง ก็ไม่เสียหายใช่ไหมล่ะ ? อย่างน้อยเราจะได้ตัดสินใจเลือกกระจกนิรภัยมาใช้งานที่บ้านได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ประเภทของกระจกนิรภัย
เรามาทำความรู้จักกับประเภทของกระจกนิรภัยกันก่อนเลย ว่ามีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภท เหมาะกับการใช้งานแบบไหน มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง มาเริ่มจากกระจกนิรภัยประเภทแรกกันเลย !
ภาพจาก contemporist.com
กระจกนิรภัยเทมเปอร์
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ เป็นกระจกนิรภัยที่นิยมใช้กันค่อนข้างมาก กระบวนการผลิตเริ่มจากการนำกระจกธรรมดาๆนี่แหละ มาอบด้วยความร้อนสูงประมาณ 650-700 องศาเซลเซียส แล้วทำให้เย็นลงในทันทีด้วยการเป่าลม
ทำให้ผิวกระจกด้านนอกแข็งเร็วกว่ากระจกด้านใน จึงเกิดความแตกต่างกันของอุณภูมิระหว่างผิวนอกกับส่วนกลางเนื้อในของกระจก ก่อให้เกิดชั้นของแรงอัดที่ผิวนอกของแผ่นกระจกทั้งสองด้าน
กระจกนิรภัยเทมเปอร์เหมาะกับงานแบบไหน ?
- ใช้เป็นประตูบานเปลือย ฉากกั้นอาบน้ำ และบานกระจกที่มีการขันอุปกรณ์ฟิตติ้งทุกชนิด
- ใช้เป็นหน้าต่างอาคาร บริเวณที่ต้องเจอกับความร้อนสูง หรือแรงลมสูง
- ใช้เป็นท็อปโต๊ะ หรือท็อปเคาน์เตอร์
- ใช้เป็นกระจกบันได ราวกั้นบันได
ภาพจาก All Purpose Glazing
ข้อดีของกระจกนิรภัยเทมเปอร์
- กระจกนิรภัยเทมเปอร์ มีความแข็งแรงกว่ากระจกทั่วไป 4-5 เท่า ทำให้กระจกรับแรงกระแทก แรงกด แรงบีบได้ดี
- ทนความร้อนสูงถึง 290 องศาเซลเซียส
- ทนความเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิอย่างฉับพลันได้ถึง 150 องศาเซลเซียส
- เมื่อแตกจะมีลักษณะคล้ายกับเมล็ดข้าวโพด อันตรายน้อยกว่ากระจกปกติ ที่แตกเป็นปากฉลาม แต่ถึงอย่างไรก็มีความคมอยู่ ควรระวังค่ะ
ภาพจาก Homedit
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคารสูง หรือพื้นที่ปิดกั้นระหว่างภายในและภายนอกอาคารที่อยู่สูงจากพื้นมากๆ เพราะหากกระจกแตกและหลุดร่วงลงมา ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้คน
กระจกนิรภัยลามิเนต
กระจกนิรภัยลามิเนต เป็นกระจกนิรภัยอีกชนิดที่นิยมใช้ ทั้งยังปลอดภัยกว่ากระจกนิรภัยเทมเปอร์ จริงๆแล้วชื่อลามิเนต เป็นเพียงชื่อของกระบวนการการทำกระจกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น
โดยกระจกนิรภัยลามิเนต เกิดจากการนำกระจกเทมเปอร์สองแผ่นมาประกบโดยมีแผ่นฟิล์มกั้นกลาง จากนั้นเข้าสู่กระบวนการรีดด้วย Roller เพื่อทำให้แผ่นฟิล์มยึดติดกับกระจก
จากนั้นนำไปเข้าอบต่อในเตาที่มีการควบคุมอุณภูมิและความดันเพื่อไล่อากาศออกให้หมด เมื่อเสร็จสิ้นทุกกระบวนการแล้ว จะได้กระจกเทมลามิเนต หรือเรียกสั้นๆว่า กระจกนิรภัยลามิเนตนั้นเอง
กระจกนิรภัยลามิเนตเหมาะกับงานแบบไหน ?
กระจกนิรภัยลามิเนต จะเหมาะกับการนำมาใช้กระจกหน้าต่างอาคร และผนังภายใน ประตูทางเข้าอาคาร หรือประตูภายในอาคาร กระจกที่ติดตั้งอยู่เหนือศรีษะหรือผนังลาดเอียง เช่นหลังคา ผนังห้องประชุมเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก หรือสถานที่ต้องการรักษาความปลอดภัยเช่น ธนาคาร
ภาพจาก hopkinsglass.com
ข้อดีของกระจกนิรภัยลามิเนต
- มีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา 4-5 เท่าเลยทีเดียว
- สามารถป้องกันและเก็บเสียงได้ค่อนข้างดี
- สามารถป้องกันความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี
- เวลากระจกนิรภัยลามิเนตแตก จะมีลักษณะเหมือนกับใยแมงมุม ยึดติดอยู่กับแผ่นฟิล์มโดยไม่ร่วงลงมา ทำให้มีความปลอดภัยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกระจกอื่น
- ป้องกันการบุกรุกจากขโมยได้ เพราะการทุบกระจกนิรภัยให้แตก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะตรงส่วนกลางเป็นฟิล์มเหนียวมาก จะต้องทำการฉีกฟิล์มก่อน เพื่อเข้ามาในตัวบ้าน
ฟิล์มที่อยู่ตรงส่วนกลางของกระจกนิรภัยลามิเนต มีคุณสมบัติดูดความชื้น ทำให้ถ้าหากใช้กระจกนี้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง จะทำให้การยึดเกาะระหว่างกระจกและฟิล์มไม่ดี เกิดการแยกตัวได้
Post a Comment