วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลือก ประตูดิจิตอล

เมื่อเราทำความรู้จักกับประเภทของประตูดิจิตอลกันแบบคร่าวๆแล้วในบทความก่อนหน้า (Digital Door Lock ติดแบบไหนดี แบบไหนเหมาะ กับการใช้งานจริง) ทีนี้เรามาดูกันต่อดีกว่า ว่าหากต้องการเลือกประตูดิจิตอล มาใช้งานที่บ้าน จะต้องเลือกอย่างไร และคำถึงถึงอะไรเป็นอันดับแรก… เริ่มจาก


ระบบการแจ้งเตือน


ระบบการร้องเตือนของประตูดิจิตอล ก็มีความคล้ายกับระบบเตือยภัยรถยนต์ สำหรับประตูดิจิตอล จะมีการเตือนในกรณีที่มีการเปิดปิดไม่ถูกต้อง การพยายามงัดแงะ การพยายามทำลายเครื่อง และความร้อน เช่น ไฟไหม้ … สิ่งที่สำคัญหากคุณมีเพื่อน หรือครอบครัว ที่เยี่ยมที่บ้าน จะต้องสอนการเปิดปิดประตูดิจิตอล จากทั้งด้านนอกและด้านในด้วย เพราะถ้าหากทำไม่ถูกต้อง สัญญาณเตือนก็จะดังขึ้นทันที

กุญแจสำรองต้องมี


ประตูดิจิตอล ทุกเครื่องจะต้องมีกุญแจสำรองสำหรับเปิดในกรณีฉุกเฉินเอาไว้ด้วย ถึงแม้ว่าเราจะใช้ประตูดิจิตอลสุดไฮเทคแล้ว แต่ยังไงสะ ก็จะต้องมีกุญแจติดตัวเอาไว้ให้อุ่นใจ เผื่อในกรณีประตูทำงานผิดเพี้ยน ลืมรหัสผ่านบ้าง อะไรบ้าง จะได้มีกุญแจเปิดเข้าบ้านได้นะคะ

ประกัน และ อะไหล่ซ่อม


ประตูดิจิตอลจัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่ง ย่อมมีวันเสียเหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป สิ่งที่เราจะต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ก็คือเรื่องของประกัน จะต้องมีศูนย์ในประเทศไทยรองรับ เพราะหากเป็นเครื่องหิ้ว คงส่งซ่อมไม่ไหว ได้ซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนแทนง่ายกว่า …


ประตูดิจิตอลทุกตัวใช้ถ่าน


ประตูดิจิตอลทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่เพื่อความเข้าใจให้ตรงกันขอเรียกว่า ใชถ่านขนาด AA จะเข้าใจกันมากกว่า สิ่งที่คุณจะต้องดูแลคือ หมั่นเปลี่ยนถ่ายให้ประตูดิจิตอลเมื่อถ่านใกล้หมด โดยคุณไม่ต้องกังวลว่า อ่าว ! แล้วจะรู้ได้ไงล่ะ ว่าเมื่อไหร่จะหมด … เพราะประตูดิจิตอลทั่วไป จะขึ้นเตือนแต่เนิ่นๆเลยว่า ต้องเปลี่ยนแล้วนะ แต่ถึงถ่านจะหมด คุณก็ผลัดมาใช้กุญแจเปิดไปก่อนก็ได้ค่ะ

ประตูดิจิตอลแบบ Main or Sub ?


ถ้าหากคุณต้องการความสะดวกรวดเร็ว ไม่ติดเรื่องความสวยงาม ไม่คิดมากเรื่องฟังก์ชันการทำงาน มีแค่บัตรกับกดรหัสก็เพียงพอ อันนี้แนะนำให้เลือกประตูดิจิตอลแบบ Sub มาใช้งานเลยจะเหมาะมาก แต่ถ้าหากคุณมองถึงความสวยงาม และฟังก์ชันการปลดล็อคที่หลากหลาย แนะนำให้เลือกประตูดิจิตอลแบบ Main ค่ะ

แบบกดรหัส วัสดุเป็นเรื่องสำคัญ


การกดรหัส จะทำเป็นการใช้งานที่มีการสัมผัสกับปุ่ม ทำให้ปุ่มเกิดการสึกหรอ หรือทิ้งรอยเอาไว้ได้ หมายความว่ารหัสที่เราตั้งเอาไว้ อาจจะถูกเปิดเผยหรือเดาได้ง่ายมากขึ้น คุณควรเลือกประตูดิจิตอลที่ทำปุ่มขึ้นมาจากวัสดุกันรอย ซึ่งคุณควรสอบถามพนักงานอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ


แบบสแกนลายนิ้วมือเลือกแบบไหนดี


ประตูดิจิตอลแบบสแกน มีให้เลือกแบบรูด กับแบบวางแสกนปกติ ซึ่งแนะนำให้เลือกแบบรูดจะดีกว่า เพราะจะไม่ทิ้งลายนิ้วมือเอาไว้ หรือถ้าหากคุณซื้อแบบวางสแกนปกติ เมื่อประตูเปิดแล้ว คุณควรเอานิ้วถูๆแท่นสแกนเพื่อทำลายลายนิ้วมือที่อาจจะติดอยู่บนเครื่องเพื่อความปลอดภัย

ประตูดิจิตอลรุ่นแนะนำ


ประตูดิจิตอล เป็นอีกอุปกรณ์ที่น่าหามาติดคอนโดมากๆ เพราะช่วยตัดปัญหาในเรื่องของการลืมกุญแจ แถมยังทำให้การล็อคห้องของเราให้ปลอดภัยอีกด้วย วันนี้เลยแวะเอาประตูดิจิตอลรุ่นแนะนำมาฝากกันจ้า

SAMSUNG SHS-5050 BK MULTI-F DIGITAL LOCK



รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.homepro.co.th/product/1015225

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Digital Door Lock ติดแบบไหนดี แบบไหนเหมาะ กับการใช้งานจริง

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยประสบปัญหาลืมกุญแจบ้านกันใช่ไหมล่ะ ? มันเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดจริงๆนะคะ เพราะเราใช้งานกุญแจอยู่ทุกวัน แต่ก็ยังลืม ! วันนี้เลยมีตัวเลือกที่น่าสนใจ และทันสมัยอย่าง Digital Door Lock ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมกันอย่างมาก แถมยังมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย

ภาพจาก Estopolis

สำหรับบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Digital Door Lock กันก่อนว่า มันคืออะไร การทำงานยังไง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกมาใช้งานกับที่บ้านให้ตรงกับความต้องการมากที่สุดจ้า

รูปแบบของ Digital Door Lock ด้านการติดตั้ง


ในเรื่องของการติดตั้ง Digital Door Lock มีทั้งแบบติดตั้งแทนลูกบิด หรือเป็นแบบติดตั้งเสริม เพิ่งความปลอดภัยขึ้นสองขั้น โดยความโดดเด่นและลักษณะการใช้งานก็มีความแตกต่างกันไป เรามาเริ่มดูจาก Digital Door Lock รูปแบบแรกกันเลย …

Digital Door lock แบบติดแทนลูกบิด (Main Lock)


Digital Door Lock แบบติดแทนลูกบิด ในการติดตั้ง จะต้องรื้อเอาล๔กบิดประตูของเก่าออกก่อน และติดตั้ง Digital Door Lock เข้าไปแทนที่ โดยขนาดของมันค่อนข้างใหญ่ และส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแบบก้านโยก ดูดีทันสมัย ดูแพง และราคาที่แพงไปตามท้องเรื่อง …

ภาพจาก NHSM

Digital Door Lock แบบติดเสริม (Sub Lock)


Digital Door Lock แบบติดเสริม จะคล้ายกับการติดกลอนเพิ่มให้กับประตู คือไม่ไปยุ่งกับลูกบิดเดิมที่มีอยู่ แต่เป็นการเสริมความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้น และที่สำคัญคือมีราคาไม่แพงมากนัก น่าจับจองมากๆ แต่ Digital Door Lock แบบติดเสริม อาจจะดูไม่ค่อยสวยงาม ไม่เข้ากับลูกบิดประตูเท่าไหร่

ภาพจาก lockdigital.com

รูปแบบการปลดล็อคของ Digital Door Lock


หลังจากเรารู้แล้วว่า Digital Door Lock สามารถติดตั้งได้ 2 รูปแบบหลักๆ แต่การปลดล็อคประตูล่ะ มีกี่แบบ ? เคยเห็นแบบทั่วไป มีเป็นแบบกดรหัส PIN แต่ในปัจจุบัน Digital Door Lock มีระบบการปลดล็อคมากกว่านั้นค่ะ !

กุญแจ Digital Door Lock


อ้าว ! เป็นประตูแบบดิจิตอลแล้ว ทำไมยังต้องมีกุญแจอีกล่ะ ? แน่นอนว่าต้องมีกุญแจสำรองเอาไว้ในกรณี Digital Door Lock ทำงานไม่ปกติ แบตเตอรี่หมด หรือเราลืมรหัสผ่าน ลืมคีย์การ์ด หรือสแกนลายนิ้วมือแล้ว ก็ไม่ทำงาน เป็นต้น

Digital Door Lock กดรหัส PIN


สำหรับการปลดล็อคที่เราเห็นกันทั่วไปคือการกดรหัส PIN เป็นการปลดล็อคแบบพื้นฐานที่ Digital Door Lock มีแทบทุกเครื่อง สามารถตั้งรหัสได้หลายชุด ซึ่งคุณสามารถตั้งรหัสแบบชั่วคราวสำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านได้ โดยไม่ต้องบอกรหัสหลักของเรา ง่ายและสะดวกดีค่ะ

ภาพจาก EBOSS

Digital Door lock แบบ Keycard


นอกจากการกดรหัสแล้ว ระบบแบบใช้ Keycard ก็เป็นอีกวิธีการปลดล็อคที่พ่วงติดมาแทบจะทุกเครื่องเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ในกรณีที่เพื่อนมาบ้านบ่อยๆ หรือคุณพ่อคุณแม่มาเยี่ยม พวกเขาจะได้สามารถเข้าห้องของเราได้โดยไม่ต้องจำรหัสให้วุ่นวาย

Digital Door Lock แบบแสกนลายนิ้วมือ


การสแกนลายนิ้วมือ เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้งานได้ง่ายและทัยสมัย ไม่ต้องกลัวเรื่องการปลอมแปลงลายนิ้วมือ มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย แต่อาจจะมีข้อเสียอยู่นิดหน่อย ตรงการสแกนไม่ผ่านเพราะเรื่องของอากาศ นอกจากนี้ยังยุ่งยากหากจะให้เพื่อนหรือพ่อแม่ของคุณสามารถเปิดประตูได้ด้วยตัวเอง

ภาพจาก Gadget Flow

Digital Door Lock แบบแสกนทุกอย่าง


รวมทุกอย่าง เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว … Digital Door Lock ที่สามารถสแกนเพื่อเปิดปิดประตูด้วยของอะไรก็ได้ ที่เราตั้งค่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัตร มือถือ หรือแม้กระทั่งขวดยาดม … พูดไปจะหาว่าโม้ แต่ Digital Door Lock สามารถทำได้แล้วจริงๆ แต่เรื่องของระบบความแม่นยำในการทำงาน อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ใช้วัตถุสแกน …

Digital Door Lock แบบปลดล็อคด้วยมือถือ


ตัว Digital Door Lock แบบปลดล็อคผ่านมือถือด้วย Application ที่คุณสามารถปลดลอคระยะไกลได้ ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Smart Home แต่การที่จะปลดล็อคประตูผ่านทางมือถือ จะต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา มือถือต้องห้ามแบตเตอรี่หมดเด็ดขาด ไม่งั้นเข้าบ้านไมได้นะ !

ภาพจาก Estopolis

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เตรียมปรับแต่งบ้านต้อนรับเจ้าตัวเล็กอย่างสุขใจ

การตกแต่งบ้านนอกจากความสวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงสมาชิกภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือเจ้าตัวเล็ก ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในอนาคต ดังนั้นการออกแบบบ้าน นอกจากจะสนองความต้องการของผู้ใหญ่ตัวโตแล้ว ยังจะต้องคิดถึงเรื่องของความปลอดภัย และพื้นที่สำหรับเสริมสร้างพัฒนาการแต่ละย่างก้าวของเจ้าตัวเล็กด้วยค่ะ


การออกแบบและปรับแต่งบ้านสำหรับเด็กในบ้าน อันที่จริงแล้วไม่ต้องปรับอะไรมากมาย เพียงแค่เราจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และภาพรวมในจุดต่างๆ ที่เราจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงมีหลักๆอยู่ไม่กี่จุดจ้า

วัสดุปูพื้นบ้าน


เด็กเล็กวัยกำลังเดิน อาจจะยังเดินไม่คล่อง มีโอกาศมากี่จะล้มลุกคลุกคลานกันบ้าง อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไห่เราก็ไม่สามารถเดาได้เลยใช่ไหมล่ะ ? ดังนั้นการเลือกวัสดุในการปูพื้นบ้าน จะต้องเลือกกระเบื้องที่มีความกึ่งมัน กึ่งด้าน ใช้มือลูบสัมผัสดูแล้วไม่ลื่นจนเกินไป หรือหากมีงบประมาณมากขึ้น ก็เลือกปูด้วยไม้ธรรมชาติ ไม้ลามิเนต ไวนิล หรือกระเบื้องยาง ที่มีความฝืด และยืดหยุ่นสูง


ระวังพื้นต่างระดับภายในบ้าน


ปัญหาสุดคลาสสิคที่คุณพ่อคุณแม่มักจะปวดหัวอยู่เสมอคือในเรื่องของพื้นที่ต่างระดับ อย่างพื้นที่บันไดเป็นต้น เพราะเด็กวัยกำลังซน พูดเลยว่าพ่อแม่อาจจะตามจับไม่ทัน คุณอาจจะติดตั้งพวกราวกั้นป้องกันเพิ่มเติมอีกชั้นนึงเพื่อความสบายใจ

นอกจากบริเวณบันไดบ้านแล้ว แนะนำให้ติดไว้ที่ห้องครัว ห้องน้ำ ด้วยนะคะ เป็นจุดอันตรายที่ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กเดินเข้าไปเพียงลำพัง

ภาพจาก Savvy Sassy Moms

ตกแต่งบ้านโล่งกว้างเพื่อความปลอดภัย


ช่วงแรกของชีวิตวัยเด็ก ความซุกซน ความอยากรู้อยากเห็น การได้มอง ได้สัมผัส และชิมรสชาติ เป็นธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไมได้เลยจริงๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จะต้องจัดการตกแต่งบ้านเน้นรูปแบบเรียบง่าย มินิมอล เปิดโล่งกว้างขวาง มีเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อป้องกันการชน

เช็คตำแหน่งของปลั๊กไฟ


อีกจุดที่จะต้องให้ความสำคัญมากๆเลย คือเต้าปลั๊กไฟ เพราะนิ้วเล็กๆของลูกน้อย ชอบจิ้ม ชอบแหย่ตามรูด้วยความอยากรู้อยากเห็น อาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลย โดยปกติเต้าปลั๊กทั่วไปที่ใช้งานในบ้านจะติดที่ความสูง 3 ระดับคือประมาณ


  • ความสูง 30 ซม. จากพื้น
  • ความสูง 80 ซม. จากพื้น
  • ความสูง 120 ซม. จากพื้น

ภาพจาก safetykart.com


จุดที่เสี่ยงอันตรายมากที่สุด คือความสูงระดับ 30 เซนติเมตร ควรหาตัวครอบปลั๊กมาติดตั้งเอาไว้เพื่อความปลอดภัย สำรับเต้าปลั๊กไฟ ควรเลือกแบบที่มีสายดิน หรือที่เป็นปลั๊กแบบสามตา เพื่อไม่ให้ถูกไฟดูดหากมีกระแสไฟฟ้ารั่ว

ประตูหน้าต่างต้องปลอดภัย


อย่าประมาทความซนของเด็กเล็กเด็ดขาดเลยนะ เพราะบางคชอบคิดว่าหน้าต่างเด็กเอื้อมไม่ถึงหรอก แต่รู้ไหมว่าเด็กๆน่ะ สามารถหาวิธีต่อขาขึ้นเพื่อปีนไปเปิดจนได้แหละถ้าอยากรู้อะไรขึ้นมา ดังนั้นจึงต้องเลือกประตูหน้าต่างที่ปลอดภัย ปิดล็อคเปิดปิดแน่นหนา มั่นใจได้ว่าเด็กไม่สามารถเปิดเองได้

ห้องน้ำสว่างและพื้นไม่ลื่น


เด็กแทบจะทุกคนเลยชอบที่จะเล่นน้ำม๊ากกก มากกก ร่าเริงสุดๆตอนบอกว่า อาบน้ำกันเถอะ ! ดังนั้นต้องระวังเรื่องความปลอดภัย หากปล่อยให้เจ้าตัวเล็กวิ่งซนเข้าห้องน้ำเอง อาจจะลื่นหกล้มบาดเจ็บได้แบบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นการออกแบบห้องน้ำ จะต้องแยกโซนแห้งเปียกออกจากกันอย่างชัดเจน

แต่ในกรณีที่สร้างห้องน้ำไปแล้ว ไม่ได้แยกโซน แนะนำให้ลองเพิ่มแผ่นยางกันลื่น หรือปูกระเบื้องแบบกันลื่น สามารถป้องกันได้ระดับนึงค่ะ

เปิดกว้างสร้างอิสระทั้งในบ้านและนอกบ้าน


พื้นที่นั่งเล่น เป็นมุมเล็กๆ ที่สามารถจุดประกายการเติบโตให้กับบลูกน้อย เติมเต็มความคิดสร้างสรรค์ เด็กๆสามารถเล่นซนได้อย่างเพลิดเพลินและปลอดภัย โดยภายในพื้นที่นั่งเล่น จะต้องมีแสงสว่างอย่างพอเหมาะ และควรจัดพื้นที่เล่นซนภายนอกกลางแจ้งเอาไว้ด้วยก็ดีนะคะ

เพราะการได้ออกไปคลุกคลีกับธรรมชาติ ในไม้ ใบหญ้า และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะยิ่งช่วยทำให้เด็กๆเปิดโลกกว้าง มีความสดชื่น และสดใสมากยิ่งขึ้น แต่ก็ควรจัดอย่างปลอดภัย หลีกเลี่ยงบ่อน้ำ บ่อปลา เพราะเด็กอาจจะพลัดตกลงไปได้ค่ะ

เปิดบล็อคสำหรับแม่และเด็ก รวมเรื่องครอบครัว และการเตรียมตัวและของใช้เด็กอ่อนต้นรับเจ้าตัวเล็กอย่างครบครัน สามารถติดตามอ่านได้ที่ > https://homepro-mom-and-baby.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วัสดุเคาน์เตอร์ท็อปครัวยอดนิยมคู่ครัวไทย

หากเราพูดถึงเรื่องของการออกแบบห้องครัวที่บ้าน สิ่งที่เรามักจะคิดถึงเป็นอันดับต้นเลยก็คือ วัสดุในการตกแต่งไหมล่ะ ? หลายคนบอกว่าห้องครัวก็ต้องเลือกวัสดุที่ทำจากสแตนเลสสิ จะได้ดูแลรักษา ทำความสะอาดง่าย แต่บางคนก็บอกว่า เลือกวัสดุจำพกหินแกรนิตสิ แข็งแรงและทนทาน…

ภาพจาก RussWittmann.com

ปัญหาการเลือกวัสดุมาใช้ตกแต่งห้องครัว เป็นสิ่งถกเถียงกันมายาวนาน ว่าแบบไหนถึงจะดี เพราะการเลือกวัสดุในการตกแต่งห้องครัวที่บ้าน อาจจะเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้ (ถ้าหากไม่มี plan ในการ renovate ในภายหลังอ่ะนะ)

จุดสำคัญอย่าง “เคาน์เตอร์ท็อป”


โดยเฉพาะในส่วนของเคาน์เตอร์ท็อป ที่เป็นจุดสำคัญภายในห้องครัว ที่นอกจากมีเอาไว้สำหรับการจัดวาง เก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ รวมไปถึงการจัดเตรียมอาหารแล้ว ยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง ปรับเปลี่ยนสไตล์ภายในห้องครัวที่บ้านให้ดูสวยงามมากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับวัสดุต่างๆ ของการดีไซน์เคาน์เตอร์ท็อป เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน รวมไปถึงความลงตัวของดีไซน์การตกแต่งภายในห้องครัว ให้ดูโดดเด่นอย่างสมดุล เริ่มจาก …

เคาน์เตอร์ท็อปครัว หินแกรนิต


หินที่นำมาใช้เป็นวัสดุในการตกแต่งห้องครัว หรือนำมาเป็นวัสดุหลักในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้แก่ หินแกรนิต ที่มีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทาน ทนต่อรอยขีดข่วย มีให้เลือกทั้งสีดำ ขาว ชมพู เทา ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีและทางแร่ธาตุ เคาน์เตอร์ท็อปครัว ที่ผลิตจากหินแกรนิต ราคาถูกกว่าหินสังเคราะห์ เหมาะกับนำมาใช้ร่วมกับครัวทุกสไตล์

ภาพจาก Seattleimprovisedmusic.us

เคาน์เตอร์ท็อปครัว หิน Quartz


หิน Quartz เป็นหินที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในการนำมาเป็นวัสดุผลิตเคาน์เตอร์ท็อปครัว ซึ่งหิน Quartz ในปัจจุบัน มีให้เลือกทั้งแบบ 100% และแบบสังเคราะห์ ผสมประมาณ 94% ส่วนอีก 5% จะเป็นเรซิ่นและเม็ดสี จึงทำให้สามารถทำสีสันได้หลากหลายมากขึ้น

เคาน์เตอร์ท็อปครัว หินอ่อน


วสดุหินอ่อน เป็นวัสดุธรรมชาติ ที่เรามักเห็นตามห้องครัวในนิตยสาร หรือในต่างประเทศ จะนิยมใช้กันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่ในประเทศไทยอาจจะไม่ค่อยเจอสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยลักษณะการใช้งานของห้องครัวไทย ที่เลอะเทอะมากกว่าครัวฝรั่งแน่ๆ หินอ่อนให้ความงดงาม หรูหรา สามารถทนน้ำและความร้อนได้ดี แต่ไม่ทนต่อพวกกรดด่าง เกิดรอยเปื้อน คราบสกปรกได้ง่าย และมีราคาค่อนข้างแพง

ภาพจาก Life in Grace

เคาน์เตอร์ท็อปครัว หินสังเคราะห์


หินสังเคราะห์จัดว่าเป็นอีกวัสดุที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากคุณสมบัติที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว ทั้งความทน และความสวยงาม สามารถดัดโค้งเป็นรูปทรงได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์ ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ

หินสังเคราะห์จะมีส่วนผสมของหินจริงปูนอยู่ ทั้งหินแกรนิต หินอ่อน หรือหินควอตซ์ โดนมีเรซิ่นเป็นตัวประสาน ซึ่งความแตกต่างระหว่างหินสังเคราะห์ และหินธรรมชาติ คือเรื่องของสีสัน ลวดลาย มีให้เลือกเยอะมากกว่า และสามารถทำเป็นแผ่นขนาดใหญ่ได้ ไม่มีรูพรุน ทำความสะอาดง่าย และมีราคาสูงเช่นกัน…

เคาน์เตอร์ท็อปครัว หินเทียม


หินเทียม คำว่าเทียม อาจจะทำให้คนตกใจ เพราะนี่มันของเก๊นี่นา !? ต้องไม่ดีแน่ๆ ขึ้นชื่อว่าของเทียม … ตรงนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างแรง เพราะความเป็นจริงแล้ว ฟินเทียมมีคุณสมบัติที่ดีพอสมควรเลยล่ะ เป็นวัสดุที่นำมาใช้ทดแทนได้แบบแนบเนียน

ทั้งความเรียบเนียน ทนทาน ทนสารเคมีทั้งกรดด่าง ไม่มีรูพรุน จึงไม่ดูดซับน้ำ โดยปกติแล้วจะผลิตจากอะคริลิค โพลีเอสเตอร์ และส่วนผสมของแร่เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

เคาน์เตอร์ท็อปครัว กระเบื้อง


วัสดุที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆเลยในการตกแต่งเคาน์เตอร์ท็อปครัวให้ดูสวยงาม โดยเฉพาะครัวในไทย คือเคาน์เตอร์ท็อปครัวกระเบื้อง ที่มีให้เลือกหลากลายลวดลายและสีสัน ซึ่งเราสามารถเลือกลวดลายได้เองอีกด้วย หาช่างทำให้ง่ายมาก

ภาพจาก The Kitchn

แต่แผ่นกระเบื้องหากใช้ไปนานๆ จะมีรอยขีดข่วน หรือหากยกของหนักมาวาง หรือกระแทกแรงๆ แผ่นกระเบื้องอาจจะแตกได้ง่ายค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่า สามารถซ่อมแซมแผ่นกระเบื้องได้ง่าย แถมราคาถูกด้วยนะ

เคาน์เตอร์ท็อปครัว ไม้


หากคุณกำลังมองหา วัสดุที่สามารถสร้างความเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุด เส้นลวดลายสวยงาม นุ่มนวลและอบอุ่น วัสดุไม้เป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า วัสดุไม้จะต้องเป็นไม้เนื้อแข็งเท่านั้น เพราะไม้ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของความชื้น

ก่อให้เกิดความสกปรก และทำความสะอาดได้ยาก โดยปกติแล้วนิยมจะใช้เป็นท็อปโต๊ะกินข้าว หรือท็อป Island จะเหมาะสมมากกว่า

ภาพจาก Designing Idea

ท็อปเคาน์เตอร์ครัว สแตนเลส


วัสดุสแตนเลส เหมาะมากหากใครต้องการตกแต่งห้องครัวออกมาในลุคโมเดิร์นหรือสไตล์ลอฟท์ หรือเป็นห้องครัวที่ใช้งานค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ ด้วยคุณสมบัติของสแตนเลส ที่เป็นโลหะที่ไม่ขึ้นสนิม แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก ทำความสะอาดได้ง่าย มักจะเห็นตามภัตตาคาร ร้านอาหารมากกว่าบ้านเรือนทั่วไป

เคาน์เตอร์ท็อปครัว ลามิเนท


อีกวัสดุยอดนิยมแถมประหยัดงบประมาณ คือลามิเนทนั้นเองจ้า … คุณสมบัติของลามิเนท จะเป็นแผ่นพลาสติกหุ้มผิวภายนอก สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย มีทั้งลายหิน ลายไม้ให้เลือก แต่ความคงทนอาจจะน้อยมากกว่าวัสดุอื่นๆ เหมาะกับบ้านที่ไม่ทำครัวเอง ไม่ทำกับข้าวเอง

เคาน์เตอร์ท็อปครัว คอนกรีต


วัสดุสุดเบสิค เรียบง่าย ราคาถูก และหาได้ง่ายมาก แท่น แท๊นนน … วัสดุคอนกรีตนั้นเอง ! เรามักจะพบทั่วไปตามบ้านเรือนต่างจังหวัด แต่ปัจจุบันมีการนำมาออกแบบประยุกต์ใช้กับห้องครัวแบบโมเดิร์นลอฟท์ สามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย ทั้งโค้ง เรียบ นูน แต่จะมีข้อเสียเรื่องน้ำซึม ความชื้น และหากมีคราบสกปรกเลอะ คราบจะติดลงลึก ทำความสะอาดได้ยาก อาจเป็นร่องรอยด่างได้

ภาพจาก Surecrete

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตกแต่งห้องน้ำ Open Space บรรยากาศรีสอร์ทสุดหรู

คุณรู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำ เป็นการผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่ง ชำระล้างร่างกายสิ่งสกปรกที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน รวมไปถึงปลดเปลื้องความเครียด ที่ติดตัวเรามาจากที่ทำงาน ปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้มีความผ่อนคลาย พักผ่อนหลับสบายตลอดทั้งคืน

ภาพจาก hansgrohe-int.com

และสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายได้ดีที่สุดคือ การตกแต่งห้องน้ำ รูปแบบ Open Space ยกระดับห้องน้ำแสนธรรมดาที่บ้าน ให้เป็นเหมือนกับรีสอร์ทสุดหรูระดับ 5 ดาว ยิ่งช่วยทำให้คุณเพลิดเพลินกับการอาบน้ำได้ดียิ่งขึ้น

ตกแต่งห้องน้ำ Open Space


การตกแต่งห้องน้ำแบบ Open Space อาจจะฟังดูเหมือนทำได้ยาก แต่อันที่จริงแล้ว ไม่ได้ยากอยากที่คิด ถ้าหากคุณรู้จักใช้แสงจากธรรมชาติ สาดส่องเข้ามาภายในได้อย่างทั่วถึง เสมือนว่ากำลังใช้ห้องน้ำอยู่ท่ามกลางพื้นที่กลางแจ้ง แต่ก็มีความเป็นส่วนตัว และปลอดภัย ไม่เปิดโล่งจนเกินไปค่ะ

ภาพจาก Architecture Art Designs

วันนี้เลยหยิบยกตัวอย่างการตกแต่งห้องน้ำแบบ Open Space จัดแบบหรูๆ ระดับ 5 ดาวมาให้ได้รับชมกัน พร้อมกับแนวทางการเลือกสุขภัณฑ์จาก Mogen พร้อมชี้เป้าแหล่งจำหน่าย เพื่อให้บ้านของเรา มีความสวยงาม โดดเด่น พักผ่อนอาบน้ำอย่างมีความสุขในทุกๆวัน

รับแสงจากธรรมชาติ Sky Light


สิ่งที่จะสามารถช่วยเปิดบรรยากาศห้องน้ำ ให้ดูผ่อนคลายและใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้นได้ดีที่สุดคือการเปลี่ยนหน้าต่างธรรมดา ให้เป็นหลังคาแบบ Sky Light ชนิดโปร่งแสง ที่สามารถรับแสงแดดได้แบบเต็มๆ อีกทั้งยังสามารถอาบน้ำไปพร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศ ภาพท้องฟ้าทุกช่วงเวลา เช้า กลางวัน เย็น และกลางคืน

โดยปกติแล้ว กระจกที่นิยมนำมาใช้เป็นหลังคาแบบ Sky Light จะเป็นกระจกเทมเปอร์นิรภัย สามารถกันแดด กันฝน มีความปลอดภัยสูง สามารถอาบน้ำได้อย่างสบายใจ ไร้กังวลจ้า

ภาพจาก TripAdvisor

ห้องน้ำแบบ Open Air


การตกแต่งห้องน้ำแบบ Open Air เป็นไอเดียที่ได้รับความนิยมในการปรับตกแต่งในรีสอร์ท เพิ่มเติมความฟินด้วยการติดตั้ง Rain Shower เข้าไปด้วย บอกเลยว่าอยากจะอาบน้ำอยู่แบบนี้ทั้งวัน (ฮ่าๆ) แต่หากนำมาประยุกต์กับบ้าน หรือที่อยู่อาศัย อาจจะเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่สวนสวยๆ กว้างๆ สักหน่อย

อีกทั้งบ้านข้างๆ ก็จะต้องปลูกห่างกันสักนิด เพราะว่าหากบ้านข้างๆ อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า บอกเลยว่าอาจจะมองเห็นห้องน้ำของเราได้แบบเต็มๆตาเลยทีเดียว …

เปิดผนังด้านข้างเชื่อมต่อธรรมชาติ


นอกจากเทคนิคการเปิดหลังคาแล้ว ลองเปลี่ยนมาเปิดกำแพงผนังด้านข้างกันดูบ้างก็เก๋ดี ติดตั้งหน้าต่างแบบปิด ที่เป็นเหมือนกับกระจกใสไม่สามารถเปิดปิดได้ เพื่อเปิดรับวิวสวนภายนอก ดึงดูดสายตา และใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

ภาพจาก architecturaldigest.com

โดยคุณอาจจะปลูกต้นไม้สูงตามริมขอบกำแพง เพื่อบดบังพื้นที่ ป้องกันสายตาจากเพื่อนบ้าน หรือติดตั้งเป็นไม้ระแนงเพิ่มเติมอีกชั้น หรือติดตั้งเป็น Facade วัสดุที่ห่อหุ้มตัวบ้านดีไซน์สวยไม่เหมือนใคร บอกเลยว่า Unique สุดๆ (ไว้บทความถัดไปจะยกตัวอย่างมาให้ชมกันนะคะ)

ปกปิดด้วยฟิล์มติดกระจก


สำหรับคอนโด โครงการมักที่จะออกแบบบ้านให้เห็นวิวในมุมกว้างระยะไกล ซึ่งห้องน้ำก็จะมีลักษณะเปิดโปร่งไว้ ใช้ผนังเป็นผนังกระจก เปิดวิวมุมมองกว้างขวาง โดยติดฟิล์มกระจก สติ๊กเกอร์ซีทรู ที่มองเห็นได้เฉพาะด้านใน หากมองจากด้านนอก ก็จะมองไม่เห็น

ภาพจาก Pinterest

สุขภัณฑ์เพิ่มความผ่อนคลาย


นอกจากการออกแบบและดีไซน์ห้องน้ำแบบเปิดโล่งแล้ว การเลือกสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ที่มีความสวยงาม เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ทั้งชักโครก อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ผักบัว และอุปกรณ์อื่นๆ ถือเป็นสิ่งทีมีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดค่ะ

เพราะความสมบูรณ์แบบของห้องน้ำ ไม่ใช่เพียงแค่ตกแต่งให้สวยงามเท่านั้น แต่เป็นการใช้งานที่สะดวกสบาย อำนวยความสะอาด และตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่สิ คือห้องน้ำในฝัน !

เลือกสุขภัณฑ์อย่างเหมาะสม


ก่อนเลือกสุขภัณฑ์มาติดตั้งใช้งาน แนะนำให้วัดขนาดและสัดส่วนต่างๆของภายในห้องน้ำให้แม่นเสียก่อน เพื่อให้สามารถจัดวางสุขภัณฑ์ในขนาดที่เหมาะสมและลงตัว ไม่ทำให้ห้องน้ำที่บ้านแลดูน่าอึดอัดจนเกินไป โดยเฉพาะชักโครก ที่มีหลากหลายรูปแบบ และแบบไหนล่ะที่จะเหมาะกับการใช้งานที่บ้านของเรามากที่สุด?

สุขภัณฑ์ 1 ชิ้น MO50 6L
สุขภัณฑ์ 1 ชิ้น MO05 4/6L
สุขภัณฑ์ 1 ชิ้น MO12 3/6L
จากเดิมราคา 8,000 บาท
ลดเหลือเพียง 5,590 บาท
จากเดิมราคา 17,900 บาท
ลดเหลือเพียง 11,900 บาท
จากเดิมราคา 8,900 บาท
ลดเหลือเพียง 5,990 บาท

ชักโครก เป็นเครื่องสุขภัณฑ์ที่ทางกรมสาธารณะสุขสนับสนุนให้หันมาใช้แทนชักโครกแบบราบ หรือส้วมแบบนั่งยอง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีอายุหน่อย ต้องบอกเลยว่า ชักโครกเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ม๊ากกกมากกก เพราะการนั่งยองนานๆ ทำให้เราปวดข้อเข่า

และเพื่อป้องกันปัญหาข้อเข่าเสื่อม การเลือกชักโครกที่มีความเหมาะสม นั่งสบาย ใช้งานสะดวก จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยเทคนิคการเลือกชักโครกมาฝากกัน เผื่อใครกำลังมองหาชักโครกใหม่มาใช้แทนส้วมแบบนั่งยองเนอะ ! > เทคนิคเลือกชักโครก นั่งสบาย ใช้งานสะดวก

ผู้อ่านท่านใดที่ต้องการปรับเปลี่ยนห้องน้ำภายในบ้าน หรือกำลังออกแบบบ้านใหม่ และต้องการห้องน้ำลักษณะเปิดโปร่งในแบบตัวอย่าง สามารถเข้าชมตัวอย่างได้ที่โชว์รูม Mogen ภายใน HomePro ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ที่ Homepro.co.th

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ก๊อกน้ำสแตนเลส ที่บอกว่าไร้สนิท ทำไมยังเกิดสนิมอยู่ล่ะ งงดิ ?

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะก๊อกน้ำที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันส่วนใหญ่แล้ว มักจะผลิตมาจากวัสดุสแตนเลส ด้วยความทนทาน และความแข็งแรง ทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดปลอดภัยจากสารปนเปื้อนประเภทโลหะหนัก เพราะสเตนเลสได้การยอมรับในด้านวัสดุ Food Grade และทนทานต่อการเกิดสนิม

ภาพจาก Best Water Purifiers

แต่ในความเป้นจริงแล้ว ก๊อกน้ำสแตนเลส ก็สามารถเกิดสนิมได้เหมือนกันนะ เพราะตัวสแตนเลสเอง ก็มีส่วนผสมหลักจากเหล็ก รวมกับธาตุชนิดอื่นๆ ในสัดส่วนที่ต่างกัน จนเกิดสแตนเลสหลากหลายเกรด ซึ่งไม่ได้บอกว่าสแตนเลสจะไม่เกิดสนิม 100% เพียงแต่สแตนเลส สามารถเกิดสนิทได้ยากมากกว่าวัสดุชนิดอื่นเท่านั้น

สแตนเลสจะมีชั้นฟิล์มที่ผิวนอก ซึ่งเป็นตัวช่วยปกป้องไม่ให้เกิดสนิม แต่ในบางครั้งชั้นฟิล์มเหล่านี้ก็สามารถถูกทำลายได้เช่นกัน เมื่อสัมผัสกับสารเคมี น้ำยา หรือน้ำที่มีภาวะดรกด่างสูง เป็นระยะเวลานาน แต่ถ้าเกิดสนิทขึ้นมาแล้วก็สามารถแก้ไขได้ไม่ยากค่ะ

ปัจจัยในการเกิดสนิม

  • อยู่ในพื้นที่ใช้น้ำบาดาล เพราะน้ำบาดาลมีส่วนผสมของหินปูน และแร่ธาตุจำนวนมาก รวมทั้งสนิทเหล็กที่ปะปนอยู่ในน้ำ จึงทำให้เกิดคราบหรือตะกรันเกาะบนผิวสแตนเลส ทำลายชั้นฟิล์มของของสแตนเลส ส่งผลให้ก๊อกน้ำอาจจะขึ้นสนิทได้
  • แถวบ้านมีไซด์ก่อสร้าง หรือบริเวณที่มีปูนซีเมนต์ ฝุ่นฝ้า อยู่ใกล้เคียง ซึ่งหากมีละอองหรือผงปูนมาเกาะบนผิวของก๊อกน้ำสแตนเลส ปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ไม่ทำความสะอาด ปูนซีเมนต์จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและความชื้น จนเกิดคลอไรด์มากัดกร่อนผิวสเตนเลส
  • บ้านติดทะเล หรือได้รับไอเกลือจากทะเล ด้วยคุณสมบัติกัดกร่อนจากแร่ธาตุในน้ำทะเลตามธรรมชาติ สามารถทำให้เกิดคราบสนิมเมื่อโดนไอเค็มจากทะเลมาเกาะเป็นเวลานาน แต่ในปัจจุบันมีการออกแบบสแตนเลสที่สามารถทนทานต่อไอทะเลได้นานมากขึ้น คือ สเตนเลส เกรด 316 (Marine Grade)

ภาพจาก Brenneco Plumbing

นอกจากเรื่องสภาพแวดล้อมแล้ว เรื่องเล็กๆใกล้ตัว อย่างน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ ที่มีส่วนผสมของกรดไฮโดรคลอริก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโดยตรง หรือเป็นไอระเหย หากสะสมเป็นเวลานาน หรือราดลงบนก๊อกน้ำสแตนเลสไปแบบตรงๆ จะก่อให้เกิดสนิมได้เช่นกัน

แต่จะบอกว่าห้ามทำความสะอาดก๊อกน้ำ ก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ? ดังนั้นทุกครั้งหลังจากการทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จ ควรนำน้ำสะอาดมาล้างและลูบด้วยฟองน้ำให้ทั่ว จะสามารถช่วยลดการเกิดสนิมได้ดีค่ะ

เกิดสนิมแล้วแก้ยังไง ?


ในกรณีที่เกิดคราบสนิมแล้ว ไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นเวลานาน แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำสะอาด 1 ชาม และใช้ฟองน้ำล้างจานแบบมีใยขัดที่ผ่านการใช้งานมาแล้วนะ ไม่ต้องซื้อใหม่ นำมาขัดผิวก๊อกน้ำสแตนเลส หรือจะใช้น้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของมะนาวแทนน้ำส้มสายชูก็ได้ค่ะ

วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เมื่อ “ผ้าม่าน” เป็นมากกว่า “ผ้าม่าน” !

ผ้าม่านในความคิดของหลายๆคน เป็นเพียงแค่ม่านบดบังแสงแดด ปิดกั้นความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในเท่านั้นใช่ไหมล่ะ ? แต่ใครจะไปรู้ว่า ผ้าม่านแสนธรรมดา สามารถเป็นได้มากกว่า ผ้าม่าน ! และมีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าการบดบังแสงแดดจากทางหน้าต่าง …

ภาพจาก Elle Decor

พูดมาขนาดนี้แล้ว เริ่มอยากรู้ล่ะสิ ว่าผ้าม่าน สามารถเอาไปทำอะไรได้เพิ่มเติมอีกได้บ้าง เรามาดูกันไปพร้อมๆกันเลยค่ะว่า ผ้าม่านสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้ยังไง เริ่มจากไอเดียแรกกันเลย !

ผ้าม่านตู้เสื้อผ้า


ไอเดียยอดฮิตสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะแยะ หนุ่มสาวสายแฟชั่นที่มีคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสะสมเอาไว้จนล้นตู้ แต่พื้นที่ในบ้านก็ไม่เพียงพอต่อการนำตู้เสื้อมามาติดตั้งเพิ่มเติม ลองเปลี่ยนมาใช้เป็นผ้าม่านมาใช้ปิดกั้นเป็นตู้เสื้อผ้ากันดูสิคะ รับรองว่านอกจากจะแอบซ่อมเสื้อผ้าที่ล้นตู้ออกมาได้แล้ว ยังทำให้ห้องดูสวยขึ้นอีกด้วย

ภาพาจาก Curtain-Tracks.com

ผ้าม่านแบบห้องลองเสื้อ


นอกจากที่จะปิดกั้นเป็นตู้เสื้อผ้าแล้ว ผ้าม่านยังทำเป็นห้องแต่งตัวลองเสื้อผ้าได้อีกด้วย ติดตั้งเป็นราวแบบวงกลม ภายในติดตั้งกระจกบานใหญ่แบบเต็มตัว แต่งตัวสวยๆ เลิศๆ ก่อนออกไปแอ๊วนอกบ้านอย่างมั่นใจ

ผ้าม่านกั้นมุมนั่งเล่น


แน่นอนว่าบางครั้งเราก็รู้สึกว่า อยากที่จะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ในมุมโปรดโดยไม่มีคนมารบกวน ลองติดตั้งผ้าม่าน เพื่อเป็นตัวกั้นพื้นที่ภายในห้องนั่งเล่น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน หรืออาจจะทำเป็นราวแบบวงกลมมุมใดมุมหนึ่ง เพียงเท่านี้คุณก็จะมีมุมส่วนตั๊วส่วนตัวในการอ่านหนังสือแล้วล่ะค่ะ

ภาพจาก Baileys Blinds

ผ้าม่านกั้นเตียงนอน


ใครที่อยากจะสร้างบรรยากาศแบบโรแมนติก หรืออยากจะมีห้องนอนมุมลับๆไร้คนรบกวน ลองติดตั้งผ้าม่านแบบโปร่งแสงรอบเตียงนอน ซึ่งเป็นตัวช่วยกรองแสงขณะที่คุณกำลังหลับใหลยามค่ำคืน ส่วนยามกลางวันคุณอาจจะใช้เวลาในการนั่งอ่านหนังสือบนเตียงนอน จิบกาแฟแบบเบาๆ ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ

ภาพจาก Modern Wall Sconces and Bed Ideas

ผ้าม่านกั้นห้องน้ำ


ห้องน้ำเป็นห้องที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวมากที่สุดใช่ไหมล่ะ การติดตั้งผ้าม่านห้องน้ำ จะช่วยเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวในห้องน้ำได้มากที่สุด ข้อดีของมันยังช่วยให้เรายืดหยุ่นการใช้ห้องน้ำได้ด้วยนะ อย่างเช่นเวลาเราอาบน้ำอยู่ ก็ปิดม่านเอาไว้ แฟนของเราก็สามารถเข้ามาล้างหน้าแปรงฟันได้ด้วย สะดวกดีใช่ไหมล่ะ

ภาพจาก Pinterest

จากไอเดียข้างต้น เห็นกันแล้วใช่ไหมล่ะว่า ผ้าม่าน มีประโยชน์มากกว่าการปิดกั้นแสงแดดจากภายนอก ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาไอเดียการตกแต่งบ้านและสร้างความเป็นส่วนตัวแบบยืดหยุ่น ลองเก็บนำไอเดียจากบทความนี้ไปใช้งานกันดูนะคะ รับรองว่าถูกใจแน่นอนจ้า

บทความแนะนำ


วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ประตูหน้าต่างแต่ละรูปแบบมีอะไรดี มีอะไรเด่น มาดูกัน !

การออกแบบบ้าน เรื่องของประตูหน้าต่าง เป็นส่วนประกอบสำคัญมากๆ สำหรับทุกมุมห้อง ประตูเชื่อมต่อทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน หน้าต่าง เปิดรับแสงแดด และรายอากาศภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง แต่ประตูหน้าต่างก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และดีไซน์แบบไหนล่ะ ที่จะเหมาะกับบ้านของเรา ?

ภาพจาก newtecwindow.com

การเลือกรูปแบบประตูหน้าต่าง มาติดตั้งที่บ้านจะต้องคำนึงถึงเรื่องของความเหมาะสม สถานที่ และไลฟ์สไตล์ของตัวผู้อยู่อาศัย เพราะประตูหน้าต่างก็มีความโดดเด่น ข้อดีที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าเราจะเลือกแบบไหนมาใช้งาน เพื่อตอบโจทย์การใช้สอยให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

เน้นประหยัดพื้นที่ = ประตูหน้าต่างบานเลื่อน


หากใครที่ต้องการติดตั้งประตูหน้าต่าง ที่จะสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ เปิดปิดง่าย แนะนำให้เลือกเป็นประตูหน้าต่างบานเลื่อน ที่มีลักษณะการเปิดปิดไปด้านข้าง จึงไม่เป็นการเสียพื้นที่เหมือนกับบานสวิงหรือบานเปิด มีทั้งแบบให้เลื่อนทางเดียวและบานสลับ แต่ข้อจำกัดคือสามารถเปิดความกว้างได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

เปิดปิดสะดวก = ประตูหน้าต่างบานเปิด


หากคุณต้องการประตูหน้าต่าง ที่สามารถใช้งานเปิดปิดได้สะดวก คือมีการเปิดปิดตามทิศทางการใช้งาน และสามารถเปิดกว้างได้แบบ 180 องศา แนะนำให้เลือกเป็นประตูหน้าต่างบานเปิด ที่มีให้เลือกทั้งแบบบานเปิดเดี่ยว และบานเปิดคู่ เหมาะสำหรับใช้งานกับก้องทั่วไป หรือใช้เป็นประตูทางเข้าบ้าน แต่ประตูประเภทนี้ จะต้องมีพื้นที่มากสักหน่อย เผื่อการเปิดปิดวงสวิงค่อนข้างกว้าง

ภาพจาก Pinterest

ประโยชน์ 2 เท่า สามารถกันฝนได้ด้วยนะ = บานกระทุ้ง


หน้าต่างอีกรูปแบบที่นิยมใช้กันมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือหน้าต่างบานกระทุ้ง เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปเพื่อระบายอากาศ หน้าต่างบานกระทุ้งเป็นเหมือนกับกันสาด จะสามารถช่วยบังแดดและฝนได้อีกด้วย แต่ดีไซน์การออกแบบของหน้าต่างบานกระทุ้ง จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก เนื่องถ้าออกแบบเป็นขนาดใหญ่ จะมีน้ำหนักมากจนเปิดค้างเอาไว้นานไม่ได้

ควบคุมปริมาณแสงและลม = หน้าต่างบานเกล็ด


ถ้าหากใครต้องการเปิดช่องแสง และช่องลมระบายอากาศ ที่สามารถกำหนดได้ด้วยตัวคุณเอง แนะนำให้เลือกเป็นหน้าต่างแบบบานเกล็ดมาใช้งาน อีกทั้งเวลาหมุนเปิดก็ไม่ยื่นออกไปเกะกะอีกด้วย แต่ข้อด้อยของหน้าต่างบานเกล็ดคือ ถึงแม้ว่าจะปิดหน้าต่างแล้ว แต่ก็ยังมีช่องว่างระหว่างบานเกล็ดอยู่ ทำให้อากาศและเสียงเล็ดลอดเข้ามาในตัวบ้านได้

บทความเกี่ยวข้อง


วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เลือกหน้าต่างอย่างไรให้ถูกโฉลกที่บ้านคุณ

หน้าต่าง เป็นเหมือนกับช่องเปิดรับแสง เพิ่มเติมความสว่างให้กับภายในบ้าน เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เปิดทัศนวิสัย ระบายอากาศให้กับที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

และด้วยดีไซน์การออกแบบทางสถาปัตยกรรมของหน้าต่างในปัจจุบัน หน้าต่างมีความสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หน้าต่างเป็นมากกว่าช่องแสงธรรมดาทั่วไป

ภาพจาก houzz.com

ดังนั้นการเลือกหน้าต่างให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ ตำแหน่งการจัดวาง และขนาดของหน้าต่าง ให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งภายในบ้าน แต่ก็มีอีกหลายองค์ประกอบและหลักการในการเลือกหน้าต่างนอกจากความสวยงาม จะเป็นอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ

ปริมาณแสงอาทิตย์


ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกแบบหน้าต่างมาติดตั้ง เราจะต้องพิจารณาก่อนว่าภายในห้องบริเวณนั้น ต้องการแสงมากน้อยเพียงใด อย่างเช่นในห้องน้ำ ควรที่จะได้รับแสงสว่างมาก เพื่อสดความอับชื้นภายในห้อง และระบายอากาศภายในได้ดี

ภาพจาก Pinterest

ความเป็นส่วนตัว


แน่นอนว่าหน้าต่างเป็นตัวเชื่อมเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและสิ่งแวดล้อมภายนอกเข้าด้วยกัน บางครั้งคุณก็อาจรู้สึกว่า มันค่อยเป็นส่วนตัว ต้องระมัดระวังสายตาจากเพื่อนบ้านอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคุณอาจจะเลือกเจาะหน้าต่างให้อยู่เหนือระดับสายตา หรือไม่ก็หาผ้าม่านมาปิดเอาไว้แทนก็ได้ค่ะ

วิวทิวทัศน์


สำหรับห้องที่ต้องการเปิดวิวทิวทัศน์ เปิดกว้าง อย่างเช่น บ้านพักตากอากาศริมทะเล หรือบ้านพักบนภูเขาเขียวขจี หรืออาจจะอยู่บนคอนโดสูง มองวิวทิวทัศน์รอบๆเมือง แนะนำให้ติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่ไปเลย เป็นเหมือนกับกำแพงด้านใดด้านหนึ่งไปเลย เพื่อที่จะรับชมวิวได้แบบพาโนราม่า

ภาพจาก terrysfabrics.co.uk

การระบายอากาศ


ห้องบางห้องจะต้องเปิดหน้าต่างบ่อยครั้งเพื่อระบายอากาศ ควรเลือกหน้าต่างที่เปิดได้ง่ายและเปิดได้กว้าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และภายในห้องหากเป็นไปได้ควรเจาะหน้าต่าง 2 ด้านของผนัง เพื่อให้ลมสามารถพัดผ่าน ระบายอากาศให้ภายในบ้านปลอดโปร่ง

รูปแบบของหน้าต่าง


โดยทั่วไปแบบหน้าต่างจะมีให้เลือกอยู่ประมาณ 5 รูปแบบ ซึ่งมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน มาดูกันค่ะว่ารูปแบบหน้าต่างแต่ละประเภท มีข้อดี ข้อเด่นในเรื่องอะไรบ้าง เริ่มจาก …

หน้าต่างบานเปิด


หน้าต่างบานเปิด สามารถพบเห็นได้บ่อยสุด มีให้เลือกทั้งบานเดี่ยว บานคู่ และบานเปิดหลายบานในวงกบเดียว ซึ่งหน้าต่างบานเปิด จะกินพื้นที่มากกว่าแบบอื่นๆ แต่เป็นหน้าต่างที่สามารถรับลมได้มาก

ภาพจาก nordicbliss.wordpress.com

หน้าต่างบานเลื่อน


หน้าต่างบานเลื่อน เป็นหน้าต่างที่เปิดเลื่อนในวงกบโดยมีชุดล้อซ่อมอยู่ในบานกรอบบนหรือล่าง สามารถทได้ทั้งสองบานสวนกัน หรือติดตายบานใดบานหนึ่ง หรือถ้ามีหลายๆบานต่อเนื่อง ก็สามารถเลื่อนทุกบานมารวบเก็บไว้ได้ด้านเดียว

หน้าต่างบานเลื่อน นิยมใช้เป็นวงกบอะลูมิเนียมเพราะมีน้ำหนักเบา หากบานหน้าต่างมีน้ำหนักมากเกินไป อาจจะฝืดหรือตกรางได้ง่าย หน้าต่างแบบนี้จะเหมาะใช้ติดตั้งสำหรับบ้านที่พื้นที่จำกัด

ภาพจาก Simonton Windows

หน้าต่างบานกระทุ้ง


หน้าต่างบานกระทุ้ง เป็นหน้าต่างที่เปิดโดยการผลักออกไปจากกรอบด้านล่าง มีจ้อดีคือ เวลาฝนตกเบาๆ ไม่จำเป็นต้องปิดหน้าต่าง เพราะบานกระทุ้งจะเป็นเหมือนกับกันสาดไปในตัว

หน้าต่างบานเฟี้ยม


หน้าต่างบานเปี้ยม เป็นบานที่สามารถพับและเลื่อนเปิดปิดได้ในตัว สามารถเปิดกว้างและไม่เปลืองพื้นที่ในการพับเก็บด้วยค่ะ หน้าต่างบานเฟี้ยมที่ใช้กันทั่วไป มักจะไม่สามารถกันน้ำได้ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการนำมาใช้กับผนังภายนอก ส่วนใหญ่แล้วจะใช้กับภายในบ้านมากกว่าค่ะ

หน้าต่างบานปิด


หน้าต่างบานปิด หรือบานฟิกซ์ เป็นหน้าต่างที่ไม่สามารถเปิดปิดได้ มีไว้สำหรับรับแสง รับวิวทิวทัศน์เท่านั้น เหมาะสำหรับบ้านพักตากอากาศตามทะเล ภูเขา หรืออาจจะเป็นคอนดูสูงๆ รับชมวิวรอบๆตัวเมือง สร้างบรรยากาศโรแมนติกได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

ภาพจาก luxurydreamhome.net

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เทคนิคทำความสะอาดโซฟาอย่างมืออาชีพ

โซฟา เป็นเหมือนกับพระเอกของห้องนั่งเล่นเลย ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางห้อง เรียกได้ว่าเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นปุ๊ป ก็จะเจอโซฟาปั๊ป ดังนั้นโซฟาจึงกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก ที่จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศและสไตล์การตกแต่งห้องนั่งเล่นได้อย่างดีที่สุด

ภาพจาก Overstock.com

แต่การที่มีโซฟาใช้งานที่บ้าน บางทีอาจจะเป็นเรื่องหนักใจสำหรับใครหลายคน ยิ่งเป็นโซฟาแบบผ้าด้วยแล้ว ยิ่งต้องปวดหัวกับเรื่องการทำความสะอาด เพราะโซฟาค่อนข้างที่จะอมฝุ่นพอสมควร หรือหากคุณเป็นคนชอบกินอาหารในห้องนั่งเล่นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอาจจะมีเศษอาหาร หรืออาจจะพลาดทำอาหารหกตกหล่นลงโซฟา การทำความสะอาดก็จะยิ่งยากขึ้น

แต่ก็อย่าเครียดไปค่ะ เพราะว่าการทำความสะอาดโซฟา อาจจะฟังดูเหมือนวุ่นวาย แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะว่าวันนี้มีเคล็ดลับง่ายๆในการทำความสะอาดโซฟามาบอกต่อกันแบบ Step by Step เริ่มจาก !

เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด


ขั้นตอนแรกในการทำความสะอาดโซฟา คือการใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม ควรเลือกใช้เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบเล็กและเลือกหัวดูดแบบแบนๆมาใส่ที่ปลาย เพื่อที่จะสามารถเข้าซอกหลืบเล็กๆได้อย่างทั่วถึง

ภาพจาก Professional Carpet Cleaning Southampton and Portsmouth Areas

สำหรับบ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยง แน่นอนว่าปัญหาเรื่องของขนสัตว์เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้หาลูกกลิ้งกาวเอาไว้ใช้กลิ้งบนโซฟา เก็บทำความสะอาดขนน้องแมวน้องหมา รับรองว่าหมดจดอย่างแน่นอน

มีคราบสกปรกอะไรทำความสะอาดให้หมดเร็วที่สุด


หากวันไหนที่คุณรับประทานอาหารบนโซฟา และเผลอทำอาหารหรือเครื่องดื่มหกใส่โซฟา จะต้องรีบทำความสะอาดคราบออกให้เร็วมากที่สุด จะใช้แปรง ผ้าขนหนู น้ำยาขจัดคราบ หรืออะไรที่เหมาะสมก็ได้ แต่ควรรีบจัดการ เพราะนานๆไปคราบจะยิ่งฝังแน่นและเอาออกยาก

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่




โซฟาหนังทำความสะอาดยังไง ?


ถ้าหากที่บ้านของคุณเป็นโซฟาพิเศษหนังเทียม หนังสังเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีสีอ่อนๆ อย่างเช่น สีขาว ควรระมัดระวังเรื่องของการทำความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะโซฟาโทนสีอ่อน ค่อนข้างที่จะสกปรกง่าย ส่วนวัสดุหนังต้องหมั่นเอาผ้าหมากๆมาเช็ดทำความสะอาดเสมอ ทำอาทิตย์ละครั้ง 2-3 ครั้งได้จะดีมาก

ภาพจาก YouTube

โซฟาโทนสีกลาง ก็ประสาทไม่ได้ เช่นพวกสีน้ำตาล สีเหลือง สีเทา อาจจะสังเกตุความสกปรกได้ยากสักหน่อย เพราะสีสันค่อนข้างจะกลมกลืน แต่ก็ไมได้หมายความว่า จะมองข้ามในเรื่องของการทำความสะอาดได้นะ ไม่ว่าจะโซฟาสีไหน ก็จะต้องทำความสะอาดเหมือนกัน !

เลอะเทอะเกินเยียวยา


สำหรับโซฟาที่ปล่อยละเลยเรื่องของการทำความสะอาดมาเป็นระยะเวลนาน ยิ่งลงมือทำความสะอาด ก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งเละเทะมากกว่าเดิม ตัวเลือกในการทำความสะอาดที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดเลยก็คือ การปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการทำความสะอาดโซฟาที่ Homepro พูดคุยกับมืออาชีพเพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสมสำหรับคุณมากที่สุดค่ะ :)

วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เทคนิคการดูแลพื้นบ้านวัสดุไม้ธรรมชาติให้เงางามอยู่เสมอ

วัสดุไม้ เป็นวัสดุปูพื้นที่ทำจากธรรมชาติยอดนิยม ที่หลายคนเลือกเป็นอันดับต้นๆนำมาใช้ตกแต่งภายในบ้านให้ดูสวยและโดดเด่น ซึ่งความสวยงามของลวดลายไม้ธรรมชาติ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร บอกเลยว่าหากตัดสินใจเลือกวัสดุไม้มาตกแต่งบ้านแล้ว ไม่ผิดหวังแน่นอน

ภาพจาก Wood Flooring Malaysia

นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว วัสดุไม้ธรรมชาติ ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของความแข็งแรงและทนทานอีกด้วย แต่การที่พื้นบ้านจะสวยและทนทานเหมือนใหม่อยู่เสมอได้นั้น จะต้องผ่านการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและใส่ใจ ยิ่งเป็นวัสดุไม้จากธรรมชาติด้วยแล้ว การกวาดพื้นถูพื้นเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอค่ะ

การดูแลรักษาพื้นบ้านวัสดุไม้ธรรมชาติ


วิธีการดูแลรักษาพื้นไม้ให้ดูดี จะต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะเจาะจงสำหรับพื้นไม้เท่านั้น อย่างพวก น้ำยารักษาพื้นไม้ ขี้ผึ้ง น้ำมันมะพร้าว ฯลฯ เพิ่มความสดใหม่และมันวาวให้ดูเหมือนใหม่ได้ภายในพริบตา ที่สำคัญคือสามารถป้องกันในเรื่องของการผุกร่อนได้ดีอีกด้วยค่ะ

แต่หากคุณคิดว่า การดูแลพื้นไม้ที่บ้าน เป็นเรื่องที่ยากเกินกำลัง ไม่เคยทำมาก่อน แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากทาง Homepro ดูก็ได้ค่ะ ว่าพื้นไม้ลักษณะนี้ จะต้องดูแลรักษาแบบไหน เป็นทางออกที่สะดวกและง่ายที่สุด บอกเลยว่าทีมงานทำงานกันแบบมืออาชีพมากๆ และราคาไม่แพงอย่างที่คิดด้วยนะคะ อิอิ

แต่หากใครคิดว่า อยากที่จะลองทำเองดูก่อน วันนี้ก็มีเทคนิคและขั้นตอนการดูแลรักษาพื้นไม้แบบง่ายๆมาฝากกัน หากคุณพร้อมแล้วมาเริ่มต้นที่ข้อแรกกันเลยดีกว่าค่ะ !

ขัดพื้นผิวไม้และเคลือบน้ำยา


เมื่อเราเลือกใช้ไม้เป็นวัสดุปูพื้นบ้าน สิ่งที่ควรทำอยู่เสมอเลยคือการขัดเนื้อไม้ วิธีการขัดก็ไม่ยากค่ะ ทำได้ด้วยการนำกระดาษทรายขัดพื้นผิวส่วนหน้าให้เรียบเนียน ถ้าหากพบว่ามีหลุมหรือร่องรอบแจก ให้โป้วปิดได้เลย จากนั้นรองพื้นผิวด้วยยูริเทนหรือน้ำยาเคลือบเนื้อไม้


ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วก็ขัดอีกครั้ง และทาสีย้อมไม้ซ้ำลงไปเพียงเท่านี้พื้นไม้ที่บ้านก็กลับมาเหมือนใหม่ มันวาวสวยโดดเด่น สร้างบรรยากาศความคลาสสิคและอบอุ่นให้กับการตกแต่งภายในบ้านได้เป็นอย่างดี

ดูแลรักษาทำความสะอาด


อีกวิธีที่ง่ายมากๆ ที่จะทำให้พื้นไม้ที่บ้านดูสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอ คือการระมัดระวังในเรื่องของการใช้สอย เวลาเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ แนะนำให้ยกสูงจากพื้นจะดีกว่า อย่าลากเพราะว่าจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย หรือแก้ปัญหาด้วยการปูพรมรองรับในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ค่ะ ป้องกันพื้นไม้ไม่ให้เกิดรอย แถมสวยอีกด้วย

พื้นไม้นอกบ้านดูแลยังไง ?


แน่นอนว่าวัสดุไม้ธรรมชาติ ไม่ได้นิยมใช้แค่ภายในบ้านเท่านั้น ภายนอกบ้านก็ฮอตฮิตไม่แพ้กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ทางเดิน ชานบ้าน ระแนงไม้ ระเบียงบ้าน ส่วนใหญ่แล้วก็จะเลือกวัสดุไม้มาใช้ตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ เพราะวัสดุไม้มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมไม้จึงเป็นวัสดุอันดับ 1 ในการใช้ตกแต่งบ้าน

แต่วัสดุไม้ที่ใช้ตกแต่งภายนอก อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษสักหน่อย ด้วยอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศเรา วัสดุไม้อาจจะมีปัญหาในเรื่องของแมลงกัดกร่อน แนะนำให้ทาสีย้อมไม้ น้ำยารักษาเนื้อไม้ ป้องกันอาไว้ก่อนค่ะ

เทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเทคนิคแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบเบื้องต้น แต่การดูแลรักษาผิววัสดุไม้จริงๆ อาจจะมีหลากหลายขั้นตอนและมีรายละเอียดลงลึกมากกว่านี้ แนะนำว่าถ้าหากอยากให้พื้นไม้ที่บ้านกลับมาสวยปังเหมือนเดิม ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากทาง Homepro เถอะค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อิอิ

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

คัมภีร์ทำความสะอาดห้องนอนทุกซอกมุมแบบไร้ที่ติ !

หลายคนอาจคิดว่าการทำควาสะอาดห้องนอน ให้สะอาดนั้นดูเหมือนเป็นเองง๊ายง่าย ไม่เห็นจะยากอะไรเลย แค่กวาดๆ ถูๆ ก็เสร็จละ ไม่เห็นจะมีอะไรวุ่นวาย แต่นั้นเป็นแค่การทำความสะอาดแบบผิวเผินเท่าที่ตาเราเห็นเท่านั้นค่ะ เพราะความสกปรกที่แท้ทรู ได้แอบซ่อนอยู่ตามซอกหลืบที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง !


วันนี้เรามีคัมภีร์การทำความสะอาดห้องนอนแบบเด็ดๆ ละเอียดยิบมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าหากทำเคล็ดลับเหล่านี้ไปทำตาม ห้องนอนที่คุณคิดว่าสะอาดแล้ว จะสะอาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังถูกสุขอนามัย ปกป้องโรคร้ายให้ห่างไกลจากร่างกายของเราอีกด้วยค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ไป !

ทำความสะอาดหลังตู้


บริเวณหลังตู้ เป็นมุมอับที่หลายคนชอบมองข้าม เพราะเรามองไม่เห็นด้วยแหละเลยไม่ได้ใส่ใจ แต่ถ้าหากคุณเอาเก้าอี้มาปีนขึ้นไปดู อาจจะต้องช็อคเพราะว่าขี้ฝุ่นเขลอะเกาะตัวหนาแน่นเต็มไปหมด หัวใจจะวาย แต่เราสามารถทำความสะอาดได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายเช็ดทำความสะอาด และใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดซ้ำอีกครั้ง

ใต้เตียงล่ะเป็นไง?


ใต้เตียงก็เป็นอีกซอกมุมที่เรามักจะขี้เกียจก้มลงไปกวาดและถู เพราะเวลาก้มหน้าปุ๊ปก็น้ามืดวูวาบ เฮ้ออ จะเป็นลม วันนี้เลยขอแนะนำ เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ LG VR65713LVM.AMRPETH ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดแบบทุกซอกทุกมุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกะทัดรัด พร้อมขนแปรงหนายาว ส่งผลให้สามารถเข้าถึงมุมได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งยังมี Digital Bumper เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางและพื้นต่างระดับ คุณจึงสามารถปล่อยให้เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ทำความสะอาดได้แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องกังวลเลยล่ะค่ะ

ทำความสะอาดโคมไฟ


โคมไฟก็เป็นอีกจุดที่หลายๆคนมองข้ามเพราะคิดว่ามันไมได้สกปรกอะไร แต่ที่จริงแล้วก็แอบมีฝุ่นจับอยู่เยอะเหมือนกันนะ นานๆทีก็นำออกมาทำความสะอาดกันบ้างก็ดีค่ะ โดบการทำควมสะอาดโคมไฟ จะต้องนำห่อกระดาษหรือถุงมารองเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้ฝุ่นร่วงหรือกระจายลงมา หลังจากนั้นก็ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดเช็ดให้ทั่ว หรือใช้ลูกกลิ้งดักฝุ่นก็ได้ค่ะตามสะดวก


ทำความสะอาดผ้าม่าน


การทำความสะอาดผ้าม่าน หากเป็นผ้าม่านแบบจีบ ให้รวบผ้าตามจีบและรัดด้วยเชือกอย่างหลวมๆ เพื่อให้จีบคงรูป ถอดผ้าม่านออกจากราวและซักทำความสะอาดแบบปกติได้เลย แต่ควรแยกซักจากผ้าประเภทอื่นนะคะ เพื่อป้องกันในเรื่องของสีตก หรือผ้าเป็นขุย

เมื่อนำผ้าม่านออกมาซักเรียบร้อยแล้ว มีนี้เราก็จะเห็นแค่รางหน้าต่างแบบเต็มๆตา แล้วคุณจะพบว่ามีฝุ่นเกาะเยอะเต็มไปหมด เพลียค่ะ … แต่การทำความสะอาดก็ไม่ได้ยากยอ่างที่คิด หากคุณมีเครื่องดูดฝุ่นแบบมือจับ ก็นำมาใช้ทำความสะอาด ดูดฝุ่นบริเวณซอกแคบๆได้เลย

มุ้งลวดฝุ่นจับ


บ้านส่วนใหญ่ประตูหน้าต่างก็จะมีมุ้งลวดใช่ไหมล่ะ ? ไหนๆก็เอาผ้าม่านไปซักแล้ว ก็หยิบเอามุ้งลวดไปล้างทำความสะอาดด้วยสะเลย โดยคุณสามารถทำความสะอาดได้ด้วยการใช้ผ้าบิดหมาดเช็ดถูก็พอ สำหรับบ้านไหนที่มุ้งลวดไม่ได้สกปรกมาก

แต่ในกรณีที่ไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นแรมปี แนะนำให้ดึงออกมาแล้วใช้น้ำฉีด และใช้สบู่หรือซันไลท์ผสมน้ำอ่อนๆ ขัดๆถูๆด้วยแปรงทำความสะอาด รับรองว่ามุ้งลวดกลับมาขาวใหม่เหมือนเดิมแน่นอน

หมอน หมอนข้าง หมอนอิง


หมอน แนะนำให้เอาออกมาจากแดดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และควรซักบ้างหากหมอนของคุณเป็นประเภทที่สามารถซักได้นะ เทคนิคการทำความสะอาดหมอนสามารถติดตามอ่านได้ที่บทความ > สุดช็อคหมอนเหลืองอ๋อย จะต้องทำยังไง !?


ที่นอนก็ต้องทำความสะอาดนะ !


ที่นอนหากเป็นขนาดเล็กๆ 3 ฟุต 3.5 ฟุต ก็อาจจะพอยกออกมาตีฝุ่นตากแดดที่ระเบียงได้ แต่สำหรับที่นอนขนาดใหญ่ ควีนไซด์ คิงไซด์ คงยกกันไม่ไหวแน่ๆ แล้วจะมีวิธีไหนที่จะสามารถทำความสะอาดที่นอนให้ปลอดฝุ่นได้บ้างล่ะ ?

คุณสามารถทำความสะอาด ได้ด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น Inverter ในการดูดฝุ่นที่นอน หรือหากคุณไม่มีเวลา แวะเข้ามาใช้บริการทำความสะอาดที่นอนจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านได้ที่ Homepro.co.th

บทความแนะนำ > สารพันปัญหา “ที่นอน” แก้ได้ง่ายกว่าที่คิด

อย่าลืมล้างแอร์บ้านด้วยล่ะ


คุณสามารถล้างทำความสะอาดแอร์เบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ถอดล้างแผ่นกรองอากาศออกมาล้างอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้งก็ยังดีค่ะ อาจจะใช้น้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ ถูเบาๆให้ทั่ว ห้ามใช้แปรงขัดเด็ดขาด เพราะแผ่นกรองอาจจะขาดได้ หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด และผึ่งให้แห้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

บทความที่เกี่ยวข้อง > ไม่ล้างแอร์บ้าน ส่งผลเสียต่อสุขภาพนะรู้ยัง ?

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สารพันปัญหา “ที่นอน” แก้ได้ง่ายกว่าที่คิด

เพราะการนอน คือ การพักผ่อนร่างกายที่ดีที่สุด ดังนั้นการดูแลรักษา ที่นอน ให้สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน เลือกประเภทของที่นอนให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย และที่สำคัญคือ การทำความสะอาดให้ถูกสุขอนามัย เพื่อลดปัญหาเรื่องสาเหตุของโรคภูมิแพ้ และอาการปวดหลังค่ะ


วันนี้เลยได้รวบรวมเคล็ดลับดีดี เพื่อนำไปปรับใช้ในการลดปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าจะสามารถช่วยทำให้ช่วงเวลาในการหลับนอนของคุณสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ

ปัญหานอนไม่สบาย มีอาการปวดหลัง


ปัญหาการนอนปวดหลัง มีหลากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ที่นอนยุบตัว ทำให้เกิดแอ่งเวลานอน หรือที่นอนนุ่ม หรือแข็งจนเกินไป ก็เป็นอีกสาเหตุ ที่ทำให้ปวดหลังได้เช่นกัน โดยวิธีการแก้ไขที่ง่ายที่สุด คือการกลับด้านของที่นอน ซึ่งเราควรกลับด้านทุกๆ 3 เดือน

เพื่อป้องกันการคลายตัวของสปริง และการยุบตัวของที่นอน แต่หากทำแล้วก็ยังไม่ได้ผล แนะนำให้มองหาแผ่น Topper มาปูทับรองนอน จะสามารถช่วยทำให้การหลับนอนสบายตัวมากขึ้น และลดอาการปวดหลังได้ดีเลยทีเดียว


ปัญหากลิ่นและคราบปัสสาวะบนที่นอน


สำหรับครอบครัวที่มีเจ้าตัวเล็กวัยซน หรือผู้สูงอายุ แน่นอนว่าจะต้องประสบปัญหาปัสสาวะรดที่นอนกันบ้างแหละ แนะนำให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับออกให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันคราบลงลึก จากนั้นก็ค่อยๆใช้น้ำสะอาดเทลงเล็น้อย และซับให้แห้ง

โดยการกำจัดกลิ่นให้อยู่หมัด สามารถทำได้ด้วยการใช้น้ำส้มสายชูผสมกับเบกกิ้งโซดา นำมาฉีดและพรมลงบนคราบสกปรกอีกครั้ง หากยังมีคราบหลงเหลือ ให้โรยผงเบกกิ้งโซดาและขัดออกเบาๆ หลังจากนั้นให้นำออกไปตากแดด จะสามารถช่วยลดกลิ่นและขจัดคราบ รวมไปถึงเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหารอยเลือดบนที่นอน


เป็นอีกปัญหาใหญ่สำหรับสาวๆ ที่พบเจอกันเป็นระจำแทบจะทุเดือน เรียกได้ว่าชวนหงุดหงิดมากเลยทีเดียว แต่การแก้ปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่นำเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำมาฉีดบริเวณรอยเลือด ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดแค่นี้ รอยเปื้อยก็หายไปในพริบตาแล้วล่ะค่ะ


ปัญหาไรฝุ่นบนที่นอน


ไรฝุ่น เป็นสาเหตุหลักของการเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งจากการวิจัย พบว่าไรฝุ่น มีมากที่สุดบนที่นอนประมาณ 1,000,000 ตัว เยอะมาก เยอะจนน่าตกใจ … ดังนั้นการกำจัดไรฝุ่น สามารถทำได้ด้วยการหมั่นซักผ้าปูที่นอนทุอาทิตย์ และถ้าหากเป็นไปได้ ควรซักด้วยน้ำร้อนประมาณ 60 องศา

ที่สำคัญคือหมั่นดูดฝุ่นบนที่นอน รวมถึงไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องนอนด้วยค่ะ หากคุณมีเวลาก็เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสักหน่อย ให้แสงสาดส่องเข้ามาให้ถึงบริเวณที่นอน สามารถลดปัญหาในเรื่องของแบคทีเรีย กลิ่นอับ และสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แบบธรรมชาติ

บริการทำความสะอาดที่นอน


สำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือต้องการความสะดวกในการทำความสะอาด Home Service ก็มีบริการกำจัดไรฝุ่น และฆ่าเชื้อโรคในที่นอน ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือติดต่อบริการได้ที่เคาน์เตอร์ HomePro ทุกสาขานะคะ Call Center 02 831 6000